14 NOV 2024 บทความผลิตภัณฑ์ 5 นาทีในการอ่าน 6516 VIEWS

7 ขั้นตอนการแต่งหน้างานผิวเกาหลี เผยผิวสวยเนียนใส ฉ่ำโกลว์

Key Takeaway

  • ขั้นตอนแรกของการแต่งหน้า คือการเตรียมผิวให้พร้อมก่อนแต่งหน้า โดยทำความสะอาดผิว ใช้โทนเนอร์ ทามอยส์เจอไรเซอร์ และครีมกันแดด เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น และพร้อมรับเมกอัป
  • ปรับสีผิวให้เรียบเนียนด้วยการใช้โทน-อัป รองพื้น คอนซีลเลอร์ และแป้งฝุ่น เลือกระหว่างลุกผิวโกลว์ หรือแมทท์ตามต้องการ
  • แต่งตาให้โดดเด่นด้วยการเขียนคิ้ว ทาอายแชโดว์ ปัดมาสคาร่า และเขียนอายไลเนอร์ เพื่อเพิ่มมิติให้ดวงตา
  • เติมสีสันให้ใบหน้าด้วยการปัดแก้ม และทาลิปสติกโทนธรรมชาติ เพื่อให้ใบหน้าดูสดใส มีสุขภาพดี

ขั้นตอนการแต่งหน้างานผิวเกาหลี 7 สเตปง่ายๆ เริ่มจากเตรียมผิวให้พร้อม ปรับสีผิวให้เรียบเนียน แต่งตาให้โดดเด่น เติมสีสันด้วยบลัชออน และลิปสติก เผยผิวฉ่ำดูมีสุขภาพดี

เตรียมผิวให้พร้อมก่อนแต่งหน้า

1.เตรียมผิวให้พร้อมก่อนแต่งหน้า

ขั้นตอนการทาครีมก่อนแต่งหน้า เป็นหนึ่งขั้นตอนสำคัญในการเตรียมความพร้อมให้ผิวก่อนแต่งหน้า เนื่องจากเป็นการช่วยบำรุง และปรับสภาพผิว เพื่อให้สามารถแต่งหน้าได้ง่าย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการเตรียมผิว ควรเริ่มจากการทำความสะอาดผิวด้วยคลีนเซอร์ จากนั้นใช้โทนเนอร์เช็ด เพื่อปรับสภาพผิว และค่า pH บนผิวให้สมดุล เตรียมพร้อมรับการบำรุง

หลังจากนั้นลงมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อช่วยเพิ่ม และกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า ลดอาการผิวแห้ง ช่วยบำรุงผิวให้นุ่ม ชุ่มชื้น แข็งแรง นอกจากนี้ การใช้มอยส์เจอไรเซอร์ก่อนแต่งหน้า จะช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานมากยิ่งขึ้น

สุดท้ายสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือการทาครีมกันแดด โดยควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ที่เหมาะสม เพื่อช่วยปกป้องกันผิวจากแสงแดด รังสี UV รวมถึงฝุ่นควันมลภาวะต่างๆ ที่จะมาทำร้ายผิวหน้าให้หมองคล้ำ เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และริ้วรอย ซึ่งควรทาครีมกันแดดทิ้งไว้ 1-2 นาที เพื่อให้เนื้อซึมเข้าสู่ผิวหน้า หลังจากนั้นจึงค่อยลงโทน-อัป และรองพื้นในขั้นตอนต่อไป

ปรับผิวให้เรียบเนียนด้วยโทน-อัป และรองพื้น

2. ปรับผิวให้เรียบเนียนด้วยโทน-อัป และรองพื้น

หลังจากเตรียมความพร้อมให้ผิวเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนการแต่งหน้าต่อไปคือการสร้างพื้นฐานที่สม่ำเสมอสำหรับเมกอัป เริ่มด้วยการทาโทน-อัป โกลว์ ครีม + เมกอัป เบส เพื่อเพิ่มความกระจ่างใส และปรับโทนสีผิวให้สว่างขึ้น เมื่อโทน-อัปซึมซาบดีแล้ว จึงค่อยลงรองพื้น เพื่อปรับให้ผิวดูเรียบเนียนยิ่งขึ้น โดยเกลี่ยให้ทั่วใบหน้าอย่างสม่ำเสมอ 

ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าต้องการลุกแบบแมทท์ที่ดูเรียบเนียนไร้ความมัน หรือลุกแบบโกลว์ที่ให้ผิวดูฉ่ำวาวมีน้ำมีนวล ดังนี้

ผิวสวยฉ่ำโกลว์ ดูอิ่มน้ำ

หากต้องการแต่งหน้างานผิวต้องเลือกใช้อาร์ทิสทรี ฟิวเจอร์โกลว์ เซรั่ม ฟาวน์เดชั่น ที่เป็นรองพื้นงานผิว เนื้อเซรั่มบางเบา แต่ติดทน เน้นความฉ่ำโกลว์ ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย ให้ผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอ บำรุงให้ผิวดูอ่อนเยาว์ และยังสามารถใช้ลงเพิ่มเลเยอร์เน้นเฉพาะจุด เพื่อช่วยปกปิดปัญหาผิวจากฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอยเล็กๆ หรือสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอได้หากต้องการ โดยควรเลือกใช้สีรองพื้นที่เข้ากับผิวหน้าของแต่ละคน

อาร์ทิสทรี ฟิวเจอร์ โกลว์ คุชชั่น ฟาวน์เดชั่น เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการแต่งหน้าให้ผิวดูโกลว์ มาในรูปแบบคุชชั่น ซึ่งสะดวกต่อการพกพา และการใช้งาน โดยจะให้ลุกที่เป็นธรรมชาติ มีความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการแต่งหน้าสดใสแบบกลาสสกิน

ผิวสวยเนียนแมทท์ คุมมัน

อาร์ทิสทรี เอเวอร์ เพอร์เฟ็ค ลองแวริ่ง ฟาวน์เดชั่น คือ รองพื้นที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการลุกแมทท์อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยคุณสมบัติการปกปิดที่เรียบเนียน สามารถกลบรอยแดง และรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

นอกจากนี้ ยังโดดเด่นด้วยความติดทนยาวนานถึง 24 ชั่วโมง ทั้งยังกันน้ำ และควบคุมความมันระหว่างวันได้ดี ทำให้ผิวหน้าดูสวยสมบูรณ์แบบตลอดวัน ที่สำคัญ รองพื้นนี้ไม่เพียงแต่ให้การปกปิดที่ดีเท่านั้น แต่ยังผสานส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิว ล็อกความชุ่มชื้น และปกป้องผิวจากมลภาวะ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการการแต่งหน้าที่ทั้งสวย และดูแลผิวไปพร้อมกัน

ปกปิดรอยดำ รอยแดงด้วยคอนซีลเลอร์

3. ปกปิดรอยดำ รอยแดงด้วยคอนซีลเลอร์

สำหรับผู้ที่มีรอยดำ รอยแดง รอยสิว รวมไปถึงรอยคล้ำใต้ตา สามารถปกปิดได้ด้วยการใช้คอนซีลเลอร์ โดยแนะนำให้ค่อยๆ ลงคอนซีลเลอร์ทีละน้อย ไม่ให้หนามากเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้คอนซีลเลอร์เป็นก้อน หรือเป็นคราบ จากนั้นค่อยๆ เกลี่ยให้เนียนไปกับผิว เพื่อให้ผิวเรียบเนียน ดูกระจ่างใสยิ่งขึ้น

4. เซตรองพื้นด้วยแป้งฝุ่นหรือแป้งผสมรองพื้น

4. เซตรองพื้นด้วยแป้งฝุ่นหรือแป้งผสมรองพื้น

ขั้นตอนต่อมา คือการลงแป้งเพื่อช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณที่ผลิตน้ำมันมาก หรือบริเวณ T-Zone เพื่อช่วยเซตรองพื้นให้อยู่ตัวอีกทั้งยังช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส เรียบเนียนยิ่งขึ้น โดยสามารถเลือกได้ว่าจะใช้เป็นแบบแป้งฝุ่น แป้งผสมรองพื้น หรือแป้งอัดแข็งโปร่งแสง ที่มีความบางเบา และสามารถกลมกลืนได้กับทุกสีผิว เมื่อทาแล้วจะให้ลุกที่เป็นธรรมชาติ

5. เขียนปรับแต่งรูปทรงคิ้วให้สวยงาม

5. เขียนปรับแต่งรูปทรงคิ้วให้สวยงาม

หลังลงแป้งจนทั่วใบหน้า ต่อไปเป็นการใช้ดินสอเขียนคิ้ว เพื่อเขียนปรับแต่งรูปทรงคิ้วให้มีความสวยงาม ควรเลือกใช้โทนสีของที่เขียนคิ้วให้เข้ากับสีผม โดยมีให้เลือกทั้งดินสอเขียนคิ้วแบบหัวอัตโนมัติ แบบฝุ่น แบบเมจิก หรือแบบเจล ซึ่งวิธีการเขียนคิ้ว ควรเริ่มโครงจากส่วนหางคิ้ว และเว้นบริเวณหัวคิ้วเอาไว้ จากนั้นลงสีด้านในโครงสร้างคิ้วที่วาดไว้ ให้สีของหัวคิ้วอ่อนกว่า อาจใช้แปรงหรือคัตตอนบัด เกลี่ยบริเวณหัวคิ้วให้ดูฟุ้งๆ เป็นธรรมชาติ 

6. ขั้นตอนการแต่งตา เพื่อความสดใส

6. ขั้นตอนการแต่งตา เพื่อความสดใส

ขั้นตอนถัดไป เป็นการแต่งตาให้ดูสวยสดใส มีมิติมากขึ้น ซึ่งการแต่งตาสามารถแต่งได้หลากหลายลุก หลายโทนสีตามที่ต้องการ โดยขั้นตอนการแต่งหน้าในส่วนของการแต่งตา แบ่งเป็นขั้นตอนย่อยได้อีก 3 ส่วนด้วยกัน คือ การแต่งตาด้วยอายแชโดว์ การปัดมาสคาร่า และการกรีดอายไลเนอร์ ดังนี้

แต่งเปลือกตาด้วยอายแชโดว์

ขั้นตอนการแต่งเปลือกตาด้วยอายแชโดว์ ต้องเริ่มจากการเลือกโทนสีที่ชอบ เช่น โทนสีชมพู โทนสีส้มพีช หรือโทนสีน้ำตาล ซึ่งสามารถเลือกเป็นอายแชโดว์เนื้อแมทท์สำหรับคนที่ชอบลุกแบบธรรมชาติ เรียบๆ หรือเลือกเป็นแบบชิมเมอร์ และเมทัลลิก สำหรับคนที่ต้องการให้ดวงตาดูเป็นประกาย โดยการลงอายแชโดว์ ควรเริ่มลงสีพื้นทั่วเปลือกตาเป็นเฉดสีอ่อนก่อน แล้วจึงลงอายแชโดว์เฉดสีที่เข้มขึ้น ไล่จากบริเวณหางตาไปบริเวณหัวตา เพื่อให้ดวงตาดูมีมิติมากขึ้น จากนั้นทำการเกลี่ยด้วยแปรงให้สีไล่กันอย่างเรียบเนียน

ดัดขนตาและปัดมาสคาร่า

ขั้นตอนการดัดขนตา และปัดมาสคาร่า ให้เริ่มจากการใช้ที่ดัดขนตา เพื่อดัดขนตาจากบริเวณชิดโคนขนตาแล้วค่อยๆ ขยับขึ้นไปจนถึงปลายขนตา ให้ขนตามีความงอนเด้งขึ้นมา จากนั้นเริ่มปัดมาสคาร่า เพื่อช่วยเพิ่มมิติให้ดวงตาดูกลมโตสวยงาม มีเสน่ห์มากขึ้น โดยปัดมาสคาร่าขึ้นแบบซิกแซกช่วงโคนขนตา เพื่อให้โคนขนตาด้านล่างดูคมเข้ม และทำให้มาสคาร่าติดขนตาได้ดีขึ้นด้วย แล้วค่อยปัดขึ้นตรงๆ บริเวณกลางถึงปลายขนตา และอย่าลืมปัดมาสคาร่าบริเวณขนตาล่างให้เรียบร้อย

เพิ่มความคมของดวงตาด้วยอายไลเนอร์

ขั้นตอนต่อไป สำหรับคนที่ต้องการเพิ่มความคมชัดให้ดวงตาด้วยการเขียนอายไลเนอร์ สามารถเขียนขอบตาได้หลายสไตล์ หลายรูปทรง ทั้งยังมีอายไลเนอร์ให้เลือกใช้ ทั้งแบบดินสอ หรือแบบลิควิด โดยการใช้แบบดินสอจะทำให้ควบคุมการเขียนได้ง่ายกว่าแบบลิควิด ซึ่งการเขียนอายไลเนอร์จะเริ่มจากการวาดเส้นขอบบริเวณหางตาก่อน แล้วค่อยๆ ลงสีให้ทึบมากขึ้น จากนั้นเขียนขอบตาด้านล่างด้วยการใช้นิ้วกดบริเวณใต้ตา เพื่อให้สามารถเขียนขอบตาด้านในได้ง่ายขึ้น

7. ปัดแก้มด้วยบลัชออนและเติมลิปสติกให้ดูสุขภาพดี

ขั้นตอนการแต่งหน้าขั้นตอนสุดท้าย คือการปัดแก้ม และเติมลิปสติก เพื่อเติมสีสันให้ใบหน้าดูสวยสมบูรณ์ สุขภาพดี และมีความสดใสเปล่งประกายเป็นธรรมชาติมากขึ้น

เลือกบลัชออนสีอ่อนหรือใกล้เคียงกับสีอายแชโดว์

การปัดแก้มนั้นควรเลือกสีบลัชออนโทนสีอ่อนอย่างสีชมพู สีพีช สีคอรัล หรือควรเลือกโทนสีให้มีความเข้ากันกับสีของอายแชโดว์ และสีผิวของแต่ละคน ส่วนการเลือกตำแหน่งในการปัดแก้ม ก็สามารถเลือกให้เหมาะสมตามรูปหน้า หรือลุกที่ต้องการได้ โดยสามารถทำการปัดแก้มไล่สูงขึ้นไปบริเวณโหนกแก้ม หรือสันแก้ม จากนั้นค่อยๆ เกลี่ย และเบลนสีให้เรียบร้อย จะทำให้ใบหน้าดูมีสีสัน มีความแดงระเรื่อ แบบผิวสุขภาพดี

ทาลิปสติกแบบธรรมชาติ

ขั้นตอนสุดท้าย คือการทาลิปสติก โดยเริ่มจากการทาลิปมัน หรือลิปบาล์มเพื่อบำรุงริมฝีปากให้ดูชุ่มชื้น และช่วยให้ทาลิปได้ติดทนนาน ต่อไปอาจมีการใช้ลิปไลเนอร์ หรือดินสอเขียนขอบปากก่อน เพื่อช่วยให้ลงสีลิปสติกได้ง่ายขึ้น ไม่เลยขอบ จากนั้นเลือกโทนสีลิปสติกที่ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับสีผิว สีอายแชโดว์ และบลัชออน เพื่อทาลงบนริมฝีปากให้ทั่ว ซึ่งลิปสติกก็มีหลายประเภทให้เลือก เช่น ลิปแมทท์ ลิปเนื้อครีม ลิปแบบลิควิด ลิปทินท์ หรือลิปกลอสส์ สำหรับคนที่ต้องการให้ริมฝีปากดูฉ่ำวาว ก็เลือกใช้เป็นลิปกลอสส์ที่มีสีมันวาว

สรุป

การแต่งหน้าให้ผิวสวยทุกสีผิว ไม่ว่าจะเป็นลุกฉ่ำโกลว์ หรือแมทท์เรียบเนียน สามารถทำได้ง่ายๆ โดยเริ่มจากการเตรียมผิวให้พร้อม บำรุงให้ชุ่มชื้น และทาครีมกันแดด จากนั้นเลือกรองพื้นให้เหมาะกับลุกที่ต้องการ สำหรับผิวโกลว์ อาจใช้อาร์ทิสทรี ฟิวเจอร์โกลว์ เซรั่ม หรือคุชชั่น ฟาวน์เดชั่น เพื่อเผยผิวสวยตามธรรมชาติ ตามด้วยการใช้คอนซีลเลอร์ แป้ง บลัชออน และลิปสติก เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์แบบ ซึ่งขั้นตอนการแต่งหน้าทั้งหมดนี้ ช่วยสร้าง Everyday Look ที่ดูเป็นธรรมชาติ สดใส และเหมาะกับทุกโอกาส