แปรฝัน เป็นเป้าหมาย | นิตยสารอะชีฟ ฉบับกันยายน 2564
สิ่งหนึ่งที่คนเราส่วนใหญ่มักจะยึดถือกันมาตลอดก็คือ สิทธิของปัจเจกชนในการบากบั่นให้ถึงเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ของแต่ละคน แน่นอนที่ก่อนอื่นใดคนเราต้องมีเป้าหมายสักอย่างหนึ่ง แต่ก็มิใช่ทุกคนไปที่จะมีเป้าหมายของตน สำหรับความฝัน…ความฝัน เป็นสิ่งที่คนทุกคนล้วนมีด้วยกันทั้งนั้น เป็นอะไรบางอย่างที่เขาต้องการจะทำ และเมื่อใดที่คุณแสดงแผนธุรกิจแอมเวย์ ก็เท่ากับว่า คุณกำลังให้โอกาสแก่คนอื่นในอันที่จะเปลี่ยนแปรความฝันของเขาให้กลายเป็นเป้าหมาย…เป็นอะไรบางอย่างที่เขาตั้งใจจะทำให้บรรลุผลสำเร็จ
บรรดาคนที่คุณพูดคุยธุรกิจแอมเวย์ด้วยนั้น หลายคนทีเดียวที่อาจจะมีความฝันอยู่สองประการด้วยกัน ประการแรกเป็นความฝันใฝ่ในสิ่งใหญ่โต เช่น อยากได้รถ อยากได้บ้าน ส่วนความฝัน อีกประการหนึ่งนั้นอาจจะใช้เวลาสั้นกว่ามาก แต่อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ ที่เขาไม่อยากจะกล่าวถึง เพราะคุณอาจจะหัวเราะเอาได้
เราจำได้เสมอถึงการที่นักธุรกิจแอมเวย์ระดับแพลตินัมขอบคุณเรา เพราะธุรกิจแอมเวย์ “ทำให้ลูกๆ ได้สวมใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ไปโรงเรียนปีนี้เป็นครั้งแรก” หรือมีเงินดาวน์สำหรับเครื่องซักผ้าเครื่องใหม่ หรือไม่ก็พอมีเงินออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านได้บ้างนานๆ ครั้ง แม้ดูออกจะเป็นเป้าหมายเล็กๆ ไม่ใหญ่โตอะไร แต่ก็เป็นความฝันอันมีค่าไม่น้อย
พึงระลึกว่า ความฝันอันยิ่งใหญ่นั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่เป้าหมายเล็กๆ นั่นย่อมดีกว่า แอมเวย์สามารถทำให้ความฝันใหญ่โตนั้นกลายเป็นความจริงในที่สุด แต่ตัวคุณเองก็สามารถช่วยให้ตัวเองบรรลุเป้าหมายเล็กๆ เหล่านั้นได้ภายในเวลาไม่กี่เดือน หรือแม้แต่ไม่กี่สัปดาห์ แล้วเป้าหมายเล็กๆ เหล่านั้นก็จะนำไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่กว่าต่อไป
จากนั้นเป้าหมายหลักของคุณก็คือ ช่วยเหลือให้ความฝันของคนอื่นนั้นกลายเป็นเป้าหมาย และช่วยให้เขาทำมันได้สำเร็จ…จงทำให้สำเร็จ แล้วคุณก็จะมีนักธุรกิจแอมเวย์ที่ทุ่มเทอุทิศตนเพื่อธุรกิจอย่างเต็มที่ และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น…คุณจะมีเพื่อนด้วย
นี่เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเราไม่เพียงแต่จะเชื่อในเรื่องสิทธิของปัจเจกชนในการบากบั่นให้ถึงเป้าหมายของตนเท่านั้น แต่เรายังเชื่ออีกด้วยว่ามันเป็นความรับผิดชอบของปัจเจกชนแต่ละคนในการที่จะช่วยเหลือ และให้กำลังใจแก่ผู้อื่นให้บรรลุถึงเป้าหมายหรือความฝันของเขา…ด้วยเช่นกัน
 |  |