![]() |
ความมั่นคงของธุรกิจนี้ไม่ได้ขึ้นกับเวลา เป็นสิ่งที่คุณนิรมล (กุ้ง) เวโรจนกุล และคุณสำราญ อุ่นยวง บอก “โตเร็วอาจมั่นคง โตช้าอาจไม่มั่นคงก็ได้ ไม่ได้มีกฎตายตัวครับ” เพราะความมั่นคงในแนวคิดของทั้งคู่นั้นต้องเกิดจากสามเสา “เสาที่หนึ่งคือ ต้องเพิ่มคนใหม่เข้าสู่องค์กรตลอดเวลาค่ะ ถ้าเราหยุดเปิดโอกาสให้ผู้คน ธุรกิจก็จะหยุดขยายตัว” คุณสำราญอธิบายต่อ “จะเปิดโอกาสให้ผู้คนได้ตลอดต้องมีเสาที่สองคือ พัฒนาคนในองค์กรให้เป็นผู้นำที่คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น ถ้าพัฒนาผู้นำเป็น เสาที่หนึ่งก็จะมีประสิทธิภาพ ถ้าพัฒนาผู้นำไม่ได้ มีเราทำเป็นคนเดียว ถ้าเราหยุด ธุรกิจก็จะหยุดทันทีครับ” และเสาที่สามซึ่งทั้งคู่บอกว่าสำคัญมากคือ “ต้องรักษาผู้คนให้อยู่ในองค์กรได้แบบมีความสุข มีความหวัง มีความรักและกลมเกลียวกัน ซึ่งความสุขในองค์กรจะเกิดขึ้นได้นั้นต้องดูแลสามเรื่องหลัก หนึ่ง คือเรื่องการเงิน ไม่ควรหยิบยืมเงินทองกัน สอง คือเรื่องชู้สาว ต้องไม่ให้มี เพราะจะทำให้ขาดความไว้วางใจ และสาม ต้องไม่มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้ง พูดจาไม่ดีต่อกัน ดังนั้น ธุรกิจจะเติบโตมั่นคงต้องมีทั้งสามเสาครับ (ยิ้ม)”
ทั้งคู่บอกว่า ธุรกิจแอมเวย์นอกจากจะเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกันแล้วยังเป็นธุรกิจที่เรียกว่า ‘เมตตาทุนนิยม’ ซึ่งคุณสำราญอธิบายว่า “ธุรกิจเมตตาทุนนิยมคือ ธุรกิจที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ใช้ศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่ ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย สิ่งที่เราทุ่มเททำลงไปจะไม่สูญเปล่า และทุกคนอยู่ในระบบได้อย่างมีความหวัง ความมั่นคง และมีอิสระครับ” วิธีดูแลผู้คนในองค์กรของทั้งคู่จึงเป็นการมอบความรู้และให้แนวคิด “เราต้องให้ความรู้กับคนของเราตลอด เพราะเมื่อทุกคนมีองค์ความรู้มากพอจนเข้าใจในธุรกิจ เขาจะยืนหยัดได้อย่างเชื่อมั่นค่ะ” คุณกุ้งบอก “ยิ่งในยุคสมัยที่ธุรกิจอื่นอาจใช้การสร้างรายได้ในระยะสั้นๆ มาเป็นสิ่งเร้าทำให้คนไขว้เขว เราต้องให้คอนเซปต์กับคนของเราว่า อย่าคิดว่าทำแล้วจะได้เท่าไหร่ ต้องคิดว่าสุดท้ายแล้วเหลือเท่าไหร่ เพราะไม่งั้นท้ายที่สุดเราจะไม่เหลืออะไร และต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าครับ”
“การที่เราสร้างธุรกิจแอมเวย์ให้เติบโตอย่างมั่นคงได้นั้นเพราะเรานำเสนอสองสิ่งครับ” คุณสำราญบอก “หนึ่ง เรานำเสนอวิถีชีวิต โลกจะเปลี่ยนแปลงยังไง วิถีชีวิตประจำวันของคนยังเหมือนเดิม ดังนั้น คนย่อมต้องมองหาผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่าและดีกับชีวิต ซึ่งธุรกิจนี้มีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้คนตั้งแต่ลืมตาตื่นจนถึงนอนหลับ สิ่งที่เรานำเสนออย่างที่สองคือ ความฝัน ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนแปลงยังไง มนุษย์ยังคงมีความฝันที่ต้องการมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม แผนธุรกิจของเราเป็นแผนที่ทำให้คนมีชีวิตดีขึ้นกว่าเดิม ทำให้ไม่ว่ายุคไหน สภาวะใด ธุรกิจของเราจะไม่ได้รับผลกระทบ ถ้าเรานำเสนอทั้งสองสิ่งนี้ด้วยมุมมองและทัศนคติที่ถูกต้อง นำเสนอผู้ใช้สินค้าว่าแค่เขาเปลี่ยนยี่ห้อสินค้าที่ใช้ ย้ายที่ซื้อของ แล้วเขาจะได้อะไรกลับมา นำเสนอกับผู้คนที่มีความฝันว่าแค่เขาเริ่มต้นกับธุรกิจกับเรา ปลายทางของเขาจะได้อะไร มีชีวิตแบบไหนครับ (ยิ้ม)”
“ธุรกิจนี้เป็น People Business ที่ต้องขับเคลื่อนด้วยคนค่ะ” คุณกุ้งบอก “คนที่มาทำจึงต้องมีความเข้าใจ ศึกษาจนเกิดเป็นความรู้ มีความคิดในการก่อร่างสร้างธุรกิจที่ชัดเจน” คุณสำราญเสริม “นอกจากนี้ต้องมีจิตวิญญาณในการเป็นเจ้าของ เป็นผู้ประกอบการ และต้องฝึกฝนจนเกิดเป็นทักษะที่เรียกว่า มืออาชีพ คือควบคุมอารมณ์ได้ ไม่แปรเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ มีความเข้าใจว่าเราทำงานกับผู้คน ต้องมั่นคง พัฒนาตัวเองให้เป็นผู้นำและสร้างผู้นำสืบต่อไป นั่นละครับจะเป็นฐานที่สำคัญของการสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจ เพราะธุรกิจนี้คือการสร้างคนเพื่อพัฒนาเป็นผู้นำครับ (ยิ้ม)”
สมัคร | สิงหาคม 2534 |
ระดับแพลตินัม | เมษายน 2535 |
ระดับทับทิม | กรกฎาคม 2535 |
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2541 |
ระดับทับทิมสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2560 |
ระดับไพลิน | กุมภาพันธ์ 2541 |
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2541 |
ระดับมรกต | กรกฎาคม 2537 |
ระดับมรกตสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2546 |
ระดับเพชร | มิถุนายน 2539 |
ระดับเพชรสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2554 |
ระดับเพชรบริหาร | สิงหาคม 2564 |
ระดับเพชรบริหารสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2564 |
![]() |
“จะสร้างอะไรให้แข็งแรงได้นั้นขึ้นอยู่กับแนวคิดของวิศวกรที่ออกแบบ” คุณสมชาย (ชาย) และคุณนงเยาว์ (ทราย) สว่างรัตน์ บอกหลักคิด “การสร้างธุรกิจแอมเวย์ก็เช่นกัน เรามีหน้าที่เป็นวิศวกรออกแบบสร้างชีวิต ขั้นตอนแรกเราต้องรู้และเข้าใจโครงสร้างของธุรกิจก่อนว่า นี่เป็นธุรกิจที่ดี คุ้มค่ากับการทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ สิ่งนี้คือคอนเซปต์ทางความคิดครับ” เมื่อตัดสินใจเลือก คุณทรายเล่าถึงขั้นตอนเริ่มต้นว่า “ต้องรู้ก่อนว่าเราทำธุรกิจนี้เพื่ออะไรค่ะ เมื่อตั้งเป้าหมายแล้ว ก็ต้องเรียนรู้และพัฒนาตัวเองให้เต็มที่ จากนั้นเริ่มหาวัตถุดิบด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้คน และเมื่อเจอคนที่ตัดสินใจก็ต้องให้ความรู้ ติดตาม พาเขาเข้าสู่ระบบเพื่อสร้างการเติบโตไปด้วยกันค่ะ”
“เราใช้วัตถุดิบไม่สิ้นเปลืองครับ” คุณชายบอกด้วยรอยยิ้ม “หลังค้นพบคนที่จะเดินไปด้วยกันแล้ว เราจะอยู่เคียงข้างเขา ถ้าเขาไม่ถอดใจ เราก็จะทำให้เขาเติบโตไปเรื่อยๆ ให้กำลังใจจับมือสู้ด้วยกันจนสำเร็จ” สิ่งหนึ่งที่ทั้งคู่เน้นย้ำในการสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจคือ ความสม่ำเสมอ “ต้องทำทุกวันค่ะ ทำเล็กทำน้อยก็ต้องทำทุกวันจึงจะเกิดทักษะ เกิดความเข้าใจ การสร้างเครือข่ายจึงจะแข็งแรง” สร้างตึกสร้างบ้านอาจต้องการแรงกาย แต่สร้างชีวิตสิ่งสำคัญที่ต้องการคือแรงใจ “วิธีสร้างกำลังใจของเราคือจะบอกตัวเองว่า ในธุรกิจนี้มีคนสำเร็จมากมาย ดังนั้น ไม่ใช่เราไม่สำเร็จ แค่เรายังไม่สำเร็จครับ” คุณชายบอก “ผมคิดว่าในธุรกิจนี้ไม่มีทางลัด อยากสำเร็จก็ต้องเดินต่อ ทำต่อ ถ้าเราไม่ถอยต้องเจอคนที่มีฝันตรงกัน ถ้าเรามัวแต่เทียบกับคนอื่นจะท้อง่าย เพราะความสำเร็จที่คนอื่นได้รับ เราไม่รู้ว่าเขาสะสมมาตั้งแต่เมื่อไหร่ สภาพแวดล้อมเขาเป็นยังไง เหมือนเขาอยู่ข้างภูเขา เขาก็หาไม้มาสร้างบ้านได้เร็ว เราอยู่ข้างทะเลจะสร้างได้เร็วอย่างเขาคงยาก แต่ถ้าไม่ถอย โอกาสยังมี สิ่งที่เรามักจะบอกคนในองค์กรคือพยายามให้ถึงที่สุด เชื่อว่าถ้าเราพยายามมากพอ ต้องได้เจอคนร่วมทางแน่นอนครับ (ยิ้ม)”
ทั้งคู่เล่าว่า ในช่วงแรกของยุคโควิดนั้นถึงกับทำอะไรไม่ถูก “เพราะเราทำออนไลน์ไม่เป็นครับ ไลฟ์สดคืออะไรไม่รู้จัก (ยิ้ม)” แต่เพราะแรงผลักดันจากคนในครอบครัวทำให้ทั้งคู่ก้าวข้ามความกลัวและเริ่มต้นเรียนรู้ “ลูกๆ ช่วยสอนทำให้เริ่มจับทางได้ จัดเซนเตอร์ออนไลน์ จากนั้นก็ไปเรียนรู้แล้วมาคิดเป็นคอนเซปต์เพื่ออธิบายให้คนในองค์กรเข้าใจว่า ต่อไปนี้นะเราจะทำห้างออนไลน์ ขายแบรนด์เนม อยู่ย่านชุมชนคนเฟซบุ๊ก เปรียบเทียบให้เขาฟังว่า ถ้าโพสต์วันละครั้งนะเหมือนกับใส่ตะกร้านั่งขายข้างถนน โพสต์วันละ 2 ครั้งเท่ากับขี่ซาเล้งเร่ขาย ถ้า 3 ครั้งคือเปิดร้านกลางสามแยก 4 ครั้งคือเปิดร้านใหญ่ในตลาด 5 ครั้งเท่ากับเปิดห้างสรรพสินค้าเลย ให้ทุกคนเลือกเอาว่าอยากเปิดร้านแบบไหน คนที่เข้าใจก็เริ่มทำธุรกิจต่อได้ ธุรกิจแอมเวย์ในช่องทางออนไลน์ของเราจึงเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาครับ” คุณทรายเสริมต่อด้วยรอยยิ้มว่า “ตอนนี้องค์กรของเรากลายเป็นมนุษย์ 200 เปอร์เซ็นต์ค่ะ เพราะทำทั้งออนไลน์ 100 เปอร์เซ็นต์และออฟไลน์ 100 เปอร์เซ็นต์”
ความมั่นคงในธุรกิจเกิดขึ้นได้จากความมั่นคงขององค์กร ความมั่นคงขององค์กรเกิดขึ้นได้จากผู้นำ “ต้องรู้จักใช้ข้อผิดพลาดเป็นบทเรียน ตั้งหลักให้ถูกต้อง ทำงานพื้นฐานให้เยอะ ให้ความรัก ความใส่ใจ และมั่นคงในสายสัมพันธ์ว่า เรามีพันธสัญญากับคนที่ชวนมา ถ้าเขายังสู้ เราต้องจับมือพาเขาไปสู่ความสำเร็จด้วยกันค่ะ” นี่เป็นคุณสมบัติของผู้นำที่จะสร้างความมั่นคงให้กับองค์กรและธุรกิจในความเห็นของคุณทราย “นอกจากนั้นต้องมั่นคงในความคิดและอารมณ์ ถ้าอารมณ์ใหญ่กว่าความคิด ธุรกิจพังครับ ต้องมีอารมณ์ที่นิ่ง มีฝันที่ยิ่งใหญ่ บวกความตั้งใจที่มากพอ ให้กำลังใจผู้คนด้วยความคิดที่ดี ที่ถูกต้อง และสม่ำเสมอ แบบนี้ธุรกิจมั่นคงแน่นอน เหมือนที่เขาพูดกันว่า การสร้างความสำเร็จของชีวิตต้องใช้ความคิดเป็นต้นทุนครับ (ยิ้ม)”
สมัคร | เมษายน 2545 |
ระดับแพลตินัม | พฤศจิกายน 2551 |
ระดับทับทิม | มกราคม 2552 |
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2552 |
ระดับไพลิน | กุมภาพันธ์ 2555 |
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2555 |
ระดับมรกต | กุมภาพันธ์ 2555 |
ระดับมรกตสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2555 |
ระดับเพชร | พฤษภาคม 2559 |
ระดับเพชรสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2560 |
ระดับเพชรบริหาร | กรกฎาคม 2561 |
ระดับเพชรบริหารสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2564 |
![]() |
“คีย์เวิร์ดหนึ่งของการจะสร้างธุรกิจให้มั่นคงคือ ต้องมีวินัยในการทำธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทั้งตัวเราเองและองค์กรมีความเชี่ยวชาญ สิ่งนี้จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง” นี่คือแนวคิดการสร้างธุรกิจของ นพ.กิตติพงษ์ (เอ็กซ์) หมั่นเขตรกิจ และคุณฐิติมา (มะนาว) ภิระบรรณ์ “นอกจากนี้คือเรื่องของการพัฒนาครับ ซึ่งจะแบ่งเป็นสามส่วนหลัก หนึ่งคือการพัฒนาตัวเองจากการฟังเรื่องราวดีๆ อ่านหนังสือดีๆ เปิดรับฟังความเห็นของคนอื่น สองคือการพัฒนาธุรกิจ เราต้องมีความเป็นมืออาชีพในเรื่องสินค้าและการตลาด สามคือการพัฒนาองค์กรในด้านการฝึกอบรมและเติมความรู้ให้องค์กรอยู่ตลอดเวลาครับ”
คุณมะนาวขยายความประโยคนี้ว่า “ยิ่งเราเติบโตขึ้นเป็นหัวหน้าองค์กร เป็นผู้นำ เรื่องที่ดาวน์ไลน์ต้องทำเป็น เราต้องทำให้เป็นก่อนค่ะ นั่นหมายความว่าเรายิ่งต้องลงหน้างาน กลับมาทำงานพื้นฐาน เพราะไม่งั้นเราจะมีแต่ทฤษฎีไปบอก ไปสอน แต่ถ้าลงไปทำหน้างานอย่างสม่ำเสมอ เราจะถ่ายทอดประสบการณ์จริงให้เขาได้ ทำให้เขารับรู้ได้ว่า เราเองก็เคยเจอปัญหาเดียวกันมาก่อน เขาก็จะมีกำลังใจที่อยากจะพัฒนาตัวเองเพื่อผ่านปัญหาไปให้ได้เหมือนกับเราค่ะ (ยิ้ม)”
“ผมมองว่าปัจจุบันคนเราต้องการมีรายได้หลายทางครับ” คุณหมอเอ็กซ์บอก “ธุรกิจแอมเวย์ซึ่งสามารถสร้างรายได้โดยไม่ต้องลงทุน เติบโตง่าย และอธิบายที่มาที่ไปของรายได้ได้ชัดเจนจึงได้รับความสนใจมากขึ้น” แต่ปัญหาหนึ่งที่ตามมาก็คือ เมื่อต้องการรายได้หลายทางก็มักจะทำหลายงานไปพร้อมกัน ทำให้ความจดจ่อในธุรกิจน้อยลง ซึ่งทั้งคู่มองเห็นจุดนี้และมีวิธีรับมือโดย “เราต้องสอนให้คนในองค์กรจับหัวใจของแต่ละงานให้เป็น เช่นหัวใจของธุรกิจแอมเวย์ต้องการการพัฒนาตนเองและเรียนรู้ตลอดเวลา แล้วงานอื่นล่ะต้องการอะไร พอเราจับหัวใจของแต่ละงานได้ก็ต้องพูดคุยกันเรื่องการเป็นมนุษย์ 300 เปอร์เซ็นต์ (ยิ้ม) คือทำทุกอย่างให้เหนือกว่ามาตรฐาน ก็จะทำให้เราทำทุกอย่างได้ดีในทุกบทบาทครับ” คุณมะนาวเสริมว่า “จริงๆ การพัฒนาตนเองในธุรกิจแอมเวย์ไม่ว่าจะเป็นการเป็นผู้นำมากขึ้น การมีความรับผิดชอบมากขึ้น และการเป็นนักเรียนรู้มากขึ้น เรานำเรื่องเหล่านี้ไปใช้ในงานอื่นได้อยู่แล้วค่ะ โลกเปลี่ยนเร็ว ไม่ว่าจะทำอะไรถ้าไม่เรียนรู้เพิ่มก็เท่ากับถอยหลัง ดังนั้น เราต้องเรียนรู้จากทั้งคนและสิ่งแวดล้อมรอบข้างตลอดเวลาเพื่อให้เราพัฒนาต่อไปได้ค่ะ (ยิ้ม)”
“ธรรมชาติของมนุษย์มีความสนใจในแต่ละเรื่องสั้นค่ะ” คุณมะนาวบอก “แนวทางของเราในการทำให้เขามีสมาธิจดจ่อในธุรกิจคือให้ทำ small win ชัยชนะเล็กๆ ในแต่ละวัน เพื่อให้เขาได้ก้าวจากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่ง เมื่อเขาเห็นความก้าวหน้าก็จะรู้สึกถึงความเป็นไปได้ว่าเขาทำได้นะ เป็นแรงจูงใจให้ทำเยอะขึ้น พอทำเยอะขึ้น ผลลัพธ์มากขึ้น เขาก็จะรู้ว่าอย่างอื่นให้ได้ไม่เหมือนธุรกิจนี้ ความจดจ่อจะมาเองค่ะ” มุมมองที่ทั้งคู่มุ่งสร้างให้เกิดขึ้นเพื่อนำพาองค์กรไปสู่ความมั่นคงคือ “อยากให้ทุกคนมองธุรกิจนี้เป็น long-term ค่ะ เพราะผลลัพธ์ของธุรกิจนี้ในระดับเข็มสูงสุดน่าจะตอบโจทย์ทุกเรื่องในชีวิตของทุกคน อยากให้ทุกคนมีเป้าหมายใหญ่ที่จะไปถึงตรงนั้น ถ้าเราปั่นจักรยานล้อเล็กเหยียบอะไรก็สะดุด แต่ถ้าเราขับรถแทร็กเตอร์หรือรถบรรทุกก็จะเหยียบได้ทุกอย่าง (หัวเราะ) อยากให้ทุกคนขับรถใหญ่ มีเป้าหมายใหญ่เพื่อจะเดินไปสู่เป้าหมายนั้นได้อย่างมีความสุข ถ้าโฟกัสเป้าหมายเราก็จะเห็นแต่เป้าหมายค่ะ” คุณหมอเอ็กช์แสดงความเห็นเพิ่มว่า “ผมคิดว่าเราทุกคนเข้ามาทำธุรกิจนี้เพราะต้องการผลลัพธ์ที่มั่นคงกับชีวิตนะครับ หากจะได้ผลลัพธ์นี้เราเองก็ต้องมั่นคงในหลักคิด มั่นคงในการทำงาน และชัดเจนในการดูแลองค์กร แล้วสุดท้ายก็จะได้รับผลอย่างที่เราตั้งใจครับ (ยิ้ม)”
สมัคร | ธันวาคม 2548 |
ระดับแพลตินัม | กรกฎาคม 2551 |
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2552 |
ระดับไพลิน | สิงหาคม 2554 |
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2561 |
ระดับมรกต | สิงหาคม 2554 |
ระดับมรกตสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2562 |
ระดับเพชร | สิงหาคม 2561 |
ระดับเพชรสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2562 |
ระดับเพชรบริหาร | สิงหาคม 2562 |
ระดับเพชรบริหารสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2564 |
![]() |
คุณสุพรรณี (อวย) สุวรรณ และคุณจีรพงค์ (โจ) ใจห้าว บอกว่า การทำธุรกิจแอมเวย์นั้นแสนง่าย เพราะทั้งหมดคือการพูดความจริง “สิ่งที่เราทำมาตลอดคือพูดเรื่องจริงของธุรกิจ เรื่องจริงของผลิตภัณฑ์ และเรื่องจริงของแผนธุรกิจต้องเคลียร์ชัดให้เข้าใจกันตั้งแต่แรกค่ะ” คุณอวยบอก “เรารู้สึกว่า การดูแลองค์กรในธุรกิจนี้ก็เหมือนการติดกระดุมเสื้อ ถ้าติดเม็ดแรกถูกก็ไม่ต้องกังวลเรื่องผลลัพธ์” และจากประสบการณ์ที่ผ่านมาทั้งคู่ยืนยันว่าพวกเขามาถูกทาง “เราทำแบบนี้กับทุกคนและเราได้คนมาสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือลูกค้าที่เข้าใจผลิตภัณฑ์อย่างแท้จริง กลุ่มที่สองคือนักธุรกิจที่เข้าใจธุรกิจอย่างแท้จริง ซึ่งเราแฮปปี้มากในการอยู่ร่วมกับคนทั้งสองกลุ่มนี้ค่ะ (ยิ้ม)”
ก่อนออกภาคสนามนักธุรกิจในองค์กรของทั้งคู่จะต้องได้รับการปลูกฝังแนวคิดและจิตวิญญาณของผู้ประกอบการด้วยการผ่านด่าน 4 บล็อก “ฟังลิงก์หนึ่งบล็อก อ่านหนังสือหนึ่งบล็อก ใช้ผลิตภัณฑ์อีกหนึ่งบล็อก และเข้างานตามลูปของการเทรนนิ่งอีกหนึ่งบล็อกค่ะ” เพราะทั้งคู่เชื่อว่า “คนที่มีความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติของธุรกิจ เข้าใจชีวิต จะไม่อ่อนไหวกับปัญหา เมื่อพื้นฐานแน่น การก้าวเดินต่อไปข้างหน้าก็จะมั่นคงครับ” คุณโจอธิบาย ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ทั้งคู่เรียนรู้มาจากเส้นทางที่ผ่านมาของตัวเอง “ความสำเร็จของเราที่เห็นว่า 3 ปี Move Up 5 เข็ม รวด..! นั้นเราไม่ได้มีเคล็ดลับเลยค่ะ แต่นี่เป็นผลจากการทำงานตั้งแต่วันแรกที่เริ่มสมัคร เราเชื่อว่าคนที่จะสำเร็จในธุรกิจนี้อย่างมั่นคงได้ต้อง Focus จดจ่อ รอได้ อดใจเป็น ธุรกิจนี้เปรียบเหมือนไม้ใหญ่ที่เราจะปลูกในรุ่นเราและหวังให้แผ่ร่มเงาไปสู่ลูกหลาน ถ้าเข้าใจเรื่องนี้เราจะรู้ว่าการจะสร้างไม้ใหญ่ให้เติบโตแข็งแรงและมีรากแก้วที่มั่นคง ต้องพิถีพิถัน ตั้งแต่กระบวนการลงเมล็ดพันธุ์บนพื้นดินและต้องให้เวลาในการหยั่งรากเติบโตค่ะ (ยิ้ม)”
คุณอวยและคุณโจบอกว่า พวกเขาตัดขาดกับอัพไลน์ตั้งแต่วันแรกที่เข้าใจแผนธุรกิจและเซ็นต์ใบสมัคร “(หัวเราะ) ตัดขาดในที่นี้ไม่ใช่ความสัมพันธ์ แต่เราเข้าใจตั้งแต่วันนั้นว่า This is my business. ค่ะ” คุณอวยขยายความต่อว่า “เราเข้าใจหลักการของผู้ก่อตั้งว่า สร้างธุรกิจนี้เพื่อช่วยเหลือหญิงชายทั่วโลกให้มีธุรกิจเป็นของตัวเอง ทำให้เราคิดว่าในเมื่อต้องการเปิดโอกาสให้ทุกคน ธุรกิจนี้ก็ต้องเป็นอะไรที่ง่าย ชัดเจน ตรงไปตรงมา และเป็นเรื่องจริง เราจึงสร้างองค์กรด้วยความคิดนี้มาตลอดค่ะ” ความง่ายนั้นทรงพลังและความถูกต้องคือความเร็ว เป็นแนวคิดที่ทั้งคู่เชื่อมั่น “ความง่ายคือเราทำธุรกิจตามแนวทางของผู้ก่อตั้งทุกประการ ไม่มีเคล็ดลับพิเศษใดๆ พูดเรื่องจริง สาธิตความจริง ไม่โอเวอร์เคลม ไม่ว่าจะเป็นสินค้า ธุรกิจ และรายได้ ต้องยึดมั่นในกฎจรรยาบรรณ ยืนอยู่บนความถูกต้อง ซื่อสัตย์ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ถ้าทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพื่อให้ได้มา สุดท้ายก็จะสูญเสียไป เพราะความไม่ถูกต้องไม่สามารถยืนยงคงกระพันได้ ในที่สุดก็กลายเป็นความช้าเพราะต้องซ่อม ต้องสร้างใหม่ ดังนั้น ความง่ายคือความทรงพลังและความถูกต้องคือความเร็วค่ะ (ยิ้ม)”
“การสร้างองค์กรให้แข็งแกร่งต้องสร้างคนในองค์กรให้มีและไม่มีตัวตนครับ” คุณโจบอก “มีตัวตน หมายถึงต้องสร้างให้เขาพัฒนาตัวเองจนเป็นที่รู้จัก เป็นที่รัก เป็นที่ชื่นชอบ และมีตัวตนในทีม ส่วนไม่มีตัวตนคือต้องทำให้เขาพร้อมเปิดใจรับฟังคำแนะนำของผู้สำเร็จเพื่อนำมาเรียนรู้และพัฒนา ทีมเป็นเรื่องสำคัญเพราะความมั่นคงของธุรกิจนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนใดคนหนึ่งครับ แต่ขึ้นอยู่กับการที่คนหลายคนมาร่วมกันทำงานด้วยความรัก ความศรัทธา เหมือนสายรุ้งที่มีหลากสีมารวมกันจึงเกิดเป็นความงาม เช่นกันในธุรกิจนี้เราก็ต้องยอมรับ ยินดีและปรับตัวที่จะให้สีอื่นๆ มาอยู่ร่วมด้วย และเมื่อทุกสีผสานกันเป็นหนึ่งเดียว ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือสายรุ้งที่งดงามหรือความสำเร็จที่มั่นคงนั่นเองครับ (ยิ้ม)”
สมัคร | ตุลาคม 2551 |
ระดับแพลตินัม | มกราคม 2553 |
ระดับทับทิม | ธันวาคม 2554 |
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2554 |
ระดับไพลิน | มีนาคม 2556 |
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2556 |
ระดับมรกต | สิงหาคม 2556 |
ระดับมรกตสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2562 |
ระดับเพชร | กรกฎาคม 2562 |
ระดับเพชรสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2563 |
ระดับเพชรบริหาร | สิงหาคม 2563 |
ระดับเพชรบริหารสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2564 |
![]() |