คุณธิดารัฏฐ์ (เงาะ) คุณภุชงค์ (โป้ง) วัชรปิยานันทน์ เล่าให้ฟังแบบเปิดใจว่า แม้งานวิศวกรคอมพิวเตอร์จะเป็นงานที่รักและมีความสุข แต่การประสบความสำเร็จเป็นเพชรทำให้มีรายได้แซงหน้างานเดิมไปไกลมาก และมีอิสรภาพในการใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ที่ต้องการ ชีวิตมีความสุขมากๆ เผลอแป๊บเดียวก็อยู่ในระดับเพชรมากว่า 15 ปีแล้ว เมื่อแอมเวย์กำลังจะมีงานเฉลิมฉลองความสำเร็จ A70 ที่จะจัดในปี 2029 ทั้งคู่จึงมีเป้าหมายใหม่ ต้องการเป็นตัวอย่างความสำเร็จให้กับองค์กรและเป็นแรงสนับสนุนให้นักธุรกิจแอมเวย์เป็นเพชรให้มากที่สุด จึงตัดสินใจที่จะก้าวสู่ความสำเร็จในขั้นต่อไป
เงาะเริ่มต้นทำธุรกิจตอนเป็นนักศึกษาปี 4 เพื่อนที่เรียนคณะเดียวกันคือคณะวิศวคอมพิวเตอร์มาชวน เขาก็สาธิตสินค้าให้ดูใต้หอพักเลย (หัวเราะ) แล้วก็เล่าแผนการตลาดให้ฟัง ซึ่งที่บ้านเคยใช้สินค้าอยู่แล้ว สุดท้ายตัดสินใจสมัครเพราะฟังแล้วคิดว่าดีค่ะ
พอเงาะทำได้พักหนึ่งก็มาชวนผม ตอนนั้นผมเป็นหุ้นส่วนทำบริษัทซอฟต์แวร์อยู่ ฟังแล้วรู้สึกว่าธุรกิจนี้เกินจินตนาการที่วิศวกรคนหนึ่งจะเข้าใจได้ครับ (หัวเราะ) คือมีเหตุมีผล แต่ไม่น่าเป็นไปได้ มีด้วยเหรอธุรกิจที่ดีขนาดนี้ จนกระทั่งเงาะสำเร็จเป็นแพลตินัมไปเที่ยวต่างประเทศ ผมก็ผ่านประสบการณ์มามากขึ้น เริ่มมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ ตอนนั้นกำลังจะมีงาน A50 แต่คนที่ไปได้ต้องเป็นเพชรเท่านั้น ผมเลยตัดสินใจทำธุรกิจร่วมกันในรหัสของเงาะ มีเวลาอีกราวปีกว่า เราตัดสินใจลุย สุดท้ายประสบความสำเร็จได้เป็นเพชรไปร่วมฉลองปี A50 ครับ (ยิ้ม)
ตอนเริ่มต้นเข้ามาทำธุรกิจ ความตั้งใจของเราเป็นมุมที่อยากตั้งตัวได้ก็จะดูผลลัพธ์ด้านการเงินที่มากพอที่จะทำให้เรามีอิสรภาพด้านการเงิน แต่พอทำมาเรื่อยๆ ได้เห็นมิติที่หลากหลายของธุรกิจมากขึ้น ทั้งเรื่องการแบ่งปัน การเห็นคุณค่าในตัวเองและผู้อื่น กลายเป็นว่าทำให้เราถ่อมตัวลงไปเยอะมาก ตอนเป็นเพชรใหม่ๆ จะรู้สึกว่าเราเก่งมากเลยนะ (หัวเราะ) แต่พอได้เห็นโลกมากขึ้น เจอและเข้าใจผู้คนมากขึ้น ยิ่งรู้สึกว่าต้องอ่อนน้อมถ่อมตน เพราะไม่ว่าใครก็สำเร็จในธุรกิจนี้ได้ถ้าเขาต้องการความสำเร็จ
จากจุดเริ่มต้นมาเป็นเพชรและจากเพชรมาเป็นเพชรบริหาร เรามีการปรับเปลี่ยนพอสมควร มิติการมองเปลี่ยน เมื่อก่อนเคยมองว่า คนที่ทำธุรกิจหลักร้อยล้านพันล้านอยู่แล้วคงไม่สนใจทำธุรกิจกับเราหรอก แต่กลายเป็นว่าธุรกิจแอมเวย์ได้รับการยอมรับมากขึ้น กรอบความคิดของคนกว้างขึ้น ตอนนี้เรามองว่าใครๆ ก็ต้องการธุรกิจแอมเวย์ เพราะธุรกิจนี้ช่วยให้คนคนหนึ่งบรรลุเป้าหมายชีวิตที่ใหญ่ขึ้นได้
วิธีทำธุรกิจของเราก็เปลี่ยน เนื่องจากเราทั้งคู่มีพื้นฐานเป็นวิศวกร ช่วงแรกจึงโฟกัสที่สินค้าเทคโนโลยี แต่ปัจจุบันทิศทางโลกโฟกัสไปด้านธุรกิจสุขภาพ เราก็ปรับรูปแบบตาม หาความรู้เพิ่ม เรียนเพิ่มเติมด้านการแพทย์บูรณาการ เรื่อง Wellness ทั้งหมดนี้ทำให้มุมมองของเราเปลี่ยน พอเราเปลี่ยนองค์กรก็เปลี่ยนตาม ซึ่งพอเราปรับเปลี่ยนไปด้วยกันตามทิศทางที่โลกกำลังสนใจก็ทำให้ธุรกิจเติบโตได้ง่ายมาก
แก่นของธุรกิจแอมเวย์คือเรื่องของคนครับ เราต้องสื่อสารให้ผู้คนเห็นว่า ธุรกิจนี้เป็นเครื่องมือที่ทำให้ชีวิตของทุกคนบรรลุความฝันได้ ไปถึงความสำเร็จได้ และคุณจะสำเร็จได้เร็วถ้าคุณรู้ว่าต้องทำอะไร เพื่ออะไร เช่นแผนการตลาดบอกว่าอยากสำเร็จ สูงขึ้นต้องช่วยคนให้สำเร็จมากขึ้น เนื้องานที่เราต้องทำคือเพิ่มคนสำเร็จ ถ้าเราขยันผิดทาง ไปโฟกัสเรื่องการขาย ขายเยอะ ยอดเยอะมากเพียงอย่างเดียว แต่สุดท้ายเข็มไม่เปลี่ยนเพราะเนื้องานไม่ใช่ ดังนั้นต้องรู้เป้าหมาย รู้เนื้องาน และต้องสร้างให้เป็นกระแสทั้งองค์กรว่า เนื้องานที่เราจะทำคืออะไร เพื่ออะไรครับ
ตอนสำเร็จเป็นเพชรเราใช้เวลาปีกว่าค่ะ นับตั้งแต่ตัดสินใจและมีเป้าหมายชีวิตร่วมไปกับเป้าหมายธุรกิจ แล้วเราก็ได้ไปงานปี A50 ซึ่งตื่นเต้นมากนะคะ มีนักธุรกิจแอมเวย์มากมายจากทั่วโลกมาร่วมงาน เหมือนกีฬาโอลิมปิก สิ่งนี้ถือเป็นโอลิมปิกของธุรกิจแอมเวย์ (ยิ้ม) และอีกไม่นานก็จะถึงปี A70 เราก็เลยมีแรงบันดาลใจใหม่ คราวนี้เราไม่ได้คิดถึงแค่ความสำเร็จของตัวเอง แต่มองไปที่คนในองค์กร อยากให้เขาสำเร็จเป็นเพชรและสูงขึ้นไปเยอะๆ เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมงาน A70 ด้วยกัน ไปร่วมงานโอลิมปิกของธุรกิจแอมเวย์ด้วยกันค่ะ
เมื่อก่อนผมใช้ชีวิตแบบไม่ค่อยห่วงตัวเองครับ แต่พอมาทำธุรกิจนี้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่ามากขึ้น ไม่ใช่แค่กับคนในองค์กร แต่ธุรกิจนี้ทำให้รู้สึกว่า ถ้าใครได้มีโอกาสใกล้ชิด ได้มีโอกาสเรียนรู้จากเรา นั่นต้องดีกว่าการที่เขาไม่มีเราในชีวิต (ยิ้ม) นี่เป็นอีกหนึ่งมิติของธุรกิจที่ผมได้รับและทำให้รู้สึกได้รับการเติมเต็ม เพราะผมเคยต้องการการยอมรับมากๆ มาก่อน แต่ตอนนี้ผมไม่อยากได้การยอมรับแบบนั้นแล้ว เพราะผมตระหนักถึงคุณค่าของตัวเอง มีแค่ความรู้สึกอยากส่งต่อสิ่งที่เรามีอยู่ในหัว มีอยู่ในใจให้กับผู้อื่น เพื่อให้เขาได้รับในสิ่งเดียวกันกับที่เราได้ อยากให้เขาได้มีชีวิตที่ดีในแบบเดียวกับที่เรามีครับ (ยิ้ม)
ธุรกิจแอมเวย์ทำให้เราไร้กังวลในชีวิตค่ะ เงาะเป็นคนที่คิดกับชีวิตเยอะมาก ตอนเด็กก็คิดว่าเราจะทำอะไรให้พ่อแม่ภูมิใจได้บ้างนอกจากรับปริญญา คิดเสมอว่าจะต้องทำยังไงถึงจะสร้างความมั่นคงในการดูแลครอบครัว พอได้มาทำธุรกิจนี้ทำให้เราพบกับความมั่นคง ความกลัวหายไปเพราะเรามั่นใจว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นธุรกิจนี้จะช่วยดูแลพ่อแม่ ดูแลลูก ดูแลคนที่เรารักได้ ยิ่งถ้าสร้างธุรกิจให้สำเร็จเร็วก็จะทำให้เรามีจุดตั้งต้นที่จะก้าวข้ามอุปสรรคและความกลัวได้เร็วขึ้นค่ะ
ผมมองว่าความกล้าหาญเป็นคุณสมบัติหลักของคนสำเร็จครับ กล้าหาญไม่ได้หมายถึงไม่กลัว แต่หมายถึงกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความกลัว ดังนั้น Be Fearless สำหรับผมคือใจถึง พร้อมเผชิญกับทุกสิ่งที่เข้ามา เดินหน้าขาสั่นก็ยังดีกว่าขาสั่นอยู่กับที่ครับ (หัวเราะ)
ถามว่าเวลาทหารไปรบเขากลัวมั้ย ผมว่าทุกคนกลัวครับ การที่เขามาฝึกซ้อม มารวมตัวกันไม่ใช่เพื่อจะมา Motivate กันว่าอย่ากลัวนะ แต่เขามารวมตัวกันเพื่อสอนยุทธวิธีออกรบยังไงให้ชนะและปลอดภัย สร้างกำลังใจและความกล้าหาญให้พร้อมลุย การทำธุรกิจแอมเวย์ก็เหมือนกันครับ บางคนกลัวที่จะเริ่มเพราะไม่รู้วิธีว่าต้องทำแบบไหน ทำให้เกิดความกลัวไปสารพัด ทั้งกลัวเสียเพื่อน กลัวทำไม่ได้ ดังนั้น เขาจึงต้องมาอยู่ในบรรยากาศของคนมีฝันที่พร้อมจะสำเร็จ นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมาก มาอยู่ในบรรยากาศ มาศึกษาเรียนรู้เพื่อให้ทำเป็น พอทำเป็นแล้วคุณจะไม่กลัวครับ
ผมคิดว่าธุรกิจนี้อาจไม่ใช่งานที่ได้ดั่งใจทุกครั้ง แต่ถ้าเราสำเร็จชีวิตของเราได้ดั่งใจแน่นอนครับ (ยิ้ม) และไม่ว่าโลกจะเกิดอะไรขึ้นก็มีคนสำเร็จในธุรกิจแอมเวย์เสมอค่ะ เวลาที่เรารู้สึกว่ามีเรื่องที่อาจเป็นปัญหาหรืออุปสรรค อยากให้ฉุกคิดว่าในธุรกิจนี้ยังมีคนสำเร็จอยู่นะ แล้วทบทวนดูว่าคนสำเร็จเขาคิดยังไง ทำยังไง เชื่อเถอะค่ะว่าแค่ปรับมุมมอง เปลี่ยนวิธีคิดให้เป็นแบบคนสำเร็จ เราก็จะสำเร็จในธุรกิจนี้ได้แน่นอนค่ะ
สมัคร | กันยายน 2544 |
ระดับแพลตินัม | มีนาคม 2547 |
ระดับทับทิม | กรกฎาคม 2548 |
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2548 |
ระดับไพลิน | กรกฎาคม 2549 |
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2553 |
ระดับมรกต | สิงหาคม 2549 |
ระดับมรกตสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2553 |
ระดับเพชร | กรกฎาคม 2551 |
ระดับเพชรสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2567 |
ระดับเพชรบริหาร | สิงหาคม 2567 |