![]() |
![]() |
![]() |
คุณธิดารัฏฐ์ (เงาะ) คุณภุชงค์ (โป้ง) วัชรปิยานันทน์ เล่าให้ฟังแบบเปิดใจว่า แม้งานวิศวกรคอมพิวเตอร์จะเป็นงานที่รักและมีความสุข แต่การประสบความสำเร็จเป็นเพชรทำให้มีรายได้แซงหน้างานเดิมไปไกลมาก และมีอิสรภาพในการใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ที่ต้องการ ชีวิตมีความสุขมากๆ เผลอแป๊บเดียวก็อยู่ในระดับเพชรมากว่า 15 ปีแล้ว เมื่อแอมเวย์กำลังจะมีงานเฉลิมฉลองความสำเร็จ A70 ที่จะจัดในปี 2029 ทั้งคู่จึงมีเป้าหมายใหม่ ต้องการเป็นตัวอย่างความสำเร็จให้กับองค์กรและเป็นแรงสนับสนุนให้นักธุรกิจแอมเวย์เป็นเพชรให้มากที่สุด จึงตัดสินใจที่จะก้าวสู่ความสำเร็จในขั้นต่อไป
เงาะเริ่มต้นทำธุรกิจตอนเป็นนักศึกษาปี 4 เพื่อนที่เรียนคณะเดียวกันคือคณะวิศวคอมพิวเตอร์มาชวน เขาก็สาธิตสินค้าให้ดูใต้หอพักเลย (หัวเราะ) แล้วก็เล่าแผนการตลาดให้ฟัง ซึ่งที่บ้านเคยใช้สินค้าอยู่แล้ว สุดท้ายตัดสินใจสมัครเพราะฟังแล้วคิดว่าดีค่ะ
พอเงาะทำได้พักหนึ่งก็มาชวนผม ตอนนั้นผมเป็นหุ้นส่วนทำบริษัทซอฟต์แวร์อยู่ ฟังแล้วรู้สึกว่าธุรกิจนี้เกินจินตนาการที่วิศวกรคนหนึ่งจะเข้าใจได้ครับ (หัวเราะ) คือมีเหตุมีผล แต่ไม่น่าเป็นไปได้ มีด้วยเหรอธุรกิจที่ดีขนาดนี้ จนกระทั่งเงาะสำเร็จเป็นแพลตินัมไปเที่ยวต่างประเทศ ผมก็ผ่านประสบการณ์มามากขึ้น เริ่มมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ ตอนนั้นกำลังจะมีงาน A50 แต่คนที่ไปได้ต้องเป็นเพชรเท่านั้น ผมเลยตัดสินใจทำธุรกิจร่วมกันในรหัสของเงาะ มีเวลาอีกราวปีกว่า เราตัดสินใจลุย สุดท้ายประสบความสำเร็จได้เป็นเพชรไปร่วมฉลองปี A50 ครับ (ยิ้ม)
ตอนเริ่มต้นเข้ามาทำธุรกิจ ความตั้งใจของเราเป็นมุมที่อยากตั้งตัวได้ก็จะดูผลลัพธ์ด้านการเงินที่มากพอที่จะทำให้เรามีอิสรภาพด้านการเงิน แต่พอทำมาเรื่อยๆ ได้เห็นมิติที่หลากหลายของธุรกิจมากขึ้น ทั้งเรื่องการแบ่งปัน การเห็นคุณค่าในตัวเองและผู้อื่น กลายเป็นว่าทำให้เราถ่อมตัวลงไปเยอะมาก ตอนเป็นเพชรใหม่ๆ จะรู้สึกว่าเราเก่งมากเลยนะ (หัวเราะ) แต่พอได้เห็นโลกมากขึ้น เจอและเข้าใจผู้คนมากขึ้น ยิ่งรู้สึกว่าต้องอ่อนน้อมถ่อมตน เพราะไม่ว่าใครก็สำเร็จในธุรกิจนี้ได้ถ้าเขาต้องการความสำเร็จ
จากจุดเริ่มต้นมาเป็นเพชรและจากเพชรมาเป็นเพชรบริหาร เรามีการปรับเปลี่ยนพอสมควร มิติการมองเปลี่ยน เมื่อก่อนเคยมองว่า คนที่ทำธุรกิจหลักร้อยล้านพันล้านอยู่แล้วคงไม่สนใจทำธุรกิจกับเราหรอก แต่กลายเป็นว่าธุรกิจแอมเวย์ได้รับการยอมรับมากขึ้น กรอบความคิดของคนกว้างขึ้น ตอนนี้เรามองว่าใครๆ ก็ต้องการธุรกิจแอมเวย์ เพราะธุรกิจนี้ช่วยให้คนคนหนึ่งบรรลุเป้าหมายชีวิตที่ใหญ่ขึ้นได้
วิธีทำธุรกิจของเราก็เปลี่ยน เนื่องจากเราทั้งคู่มีพื้นฐานเป็นวิศวกร ช่วงแรกจึงโฟกัสที่สินค้าเทคโนโลยี แต่ปัจจุบันทิศทางโลกโฟกัสไปด้านธุรกิจสุขภาพ เราก็ปรับรูปแบบตาม หาความรู้เพิ่ม เรียนเพิ่มเติมด้านการแพทย์บูรณาการ เรื่อง Wellness ทั้งหมดนี้ทำให้มุมมองของเราเปลี่ยน พอเราเปลี่ยนองค์กรก็เปลี่ยนตาม ซึ่งพอเราปรับเปลี่ยนไปด้วยกันตามทิศทางที่โลกกำลังสนใจก็ทำให้ธุรกิจเติบโตได้ง่ายมาก
แก่นของธุรกิจแอมเวย์คือเรื่องของคนครับ เราต้องสื่อสารให้ผู้คนเห็นว่า ธุรกิจนี้เป็นเครื่องมือที่ทำให้ชีวิตของทุกคนบรรลุความฝันได้ ไปถึงความสำเร็จได้ และคุณจะสำเร็จได้เร็วถ้าคุณรู้ว่าต้องทำอะไร เพื่ออะไร เช่นแผนการตลาดบอกว่าอยากสำเร็จสูงขึ้นต้องช่วยคนให้สำเร็จมากขึ้น เนื้องานที่เราต้องทำคือเพิ่มคนสำเร็จ ถ้าเราขยันผิดทาง ไปโฟกัสเรื่องการขาย ขายเยอะ ยอดเยอะมากเพียงอย่างเดียว แต่สุดท้ายเข็มไม่เปลี่ยนเพราะเนื้องานไม่ใช่ ดังนั้นต้องรู้เป้าหมาย รู้เนื้องาน และต้องสร้างให้เป็นกระแสทั้งองค์กรว่า เนื้องานที่เราจะทำคืออะไร เพื่ออะไรครับ
ตอนสำเร็จเป็นเพชรเราใช้เวลาปีกว่าค่ะ นับตั้งแต่ตัดสินใจและมีเป้าหมายชีวิตร่วมไปกับเป้าหมายธุรกิจ แล้วเราก็ได้ไปงานปี A50 ซึ่งตื่นเต้นมากนะคะ มีนักธุรกิจแอมเวย์มากมายจากทั่วโลกมาร่วมงาน เหมือนกีฬาโอลิมปิก สิ่งนี้ถือเป็นโอลิมปิกของธุรกิจแอมเวย์ (ยิ้ม) และอีกไม่นานก็จะถึงปี A70 เราก็เลยมีแรงบันดาลใจใหม่ คราวนี้เราไม่ได้คิดถึงแค่ความสำเร็จของตัวเอง แต่มองไปที่คนในองค์กร อยากให้เขาสำเร็จเป็นเพชรและสูงขึ้นไปเยอะๆ เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมงาน A70 ด้วยกัน ไปร่วมงานโอลิมปิกของธุรกิจแอมเวย์ด้วยกันค่ะ
เมื่อก่อนผมใช้ชีวิตแบบไม่ค่อยห่วงตัวเองครับ แต่พอมาทำธุรกิจนี้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่ามากขึ้น ไม่ใช่แค่กับคนในองค์กร แต่ธุรกิจนี้ทำให้รู้สึกว่า ถ้าใครได้มีโอกาสใกล้ชิด ได้มีโอกาสเรียนรู้จากเรา นั่นต้องดีกว่าการที่เขาไม่มีเราในชีวิต (ยิ้ม) นี่เป็นอีกหนึ่งมิติของธุรกิจที่ผมได้รับและทำให้รู้สึกได้รับการเติมเต็ม เพราะผมเคยต้องการการยอมรับมากๆ มาก่อน แต่ตอนนี้ผมไม่อยากได้การยอมรับแบบนั้นแล้ว เพราะผมตระหนักถึงคุณค่าของตัวเอง มีแค่ความรู้สึกอยากส่งต่อสิ่งที่เรามีอยู่ในหัว มีอยู่ในใจให้กับผู้อื่น เพื่อให้เขาได้รับในสิ่งเดียวกันกับที่เราได้ อยากให้เขาได้มีชีวิตที่ดีในแบบเดียวกับที่เรามีครับ (ยิ้ม)
ธุรกิจแอมเวย์ทำให้เราไร้กังวลในชีวิตค่ะ เงาะเป็นคนที่คิดกับชีวิตเยอะมาก ตอนเด็กก็คิดว่าเราจะทำอะไรให้พ่อแม่ภูมิใจได้บ้างนอกจากรับปริญญา คิดเสมอว่าจะต้องทำยังไงถึงจะสร้างความมั่นคงในการดูแลครอบครัว พอได้มาทำธุรกิจนี้ทำให้เราพบกับความมั่นคง ความกลัวหายไปเพราะเรามั่นใจว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นธุรกิจนี้จะช่วยดูแลพ่อแม่ ดูแลลูก ดูแลคนที่เรารักได้ ยิ่งถ้าสร้างธุรกิจให้สำเร็จเร็วก็จะทำให้เรามีจุดตั้งต้นที่จะก้าวข้ามอุปสรรคและความกลัวได้เร็วขึ้นค่ะ
ผมมองว่าความกล้าหาญเป็นคุณสมบัติหลักของคนสำเร็จครับ กล้าหาญไม่ได้หมายถึงไม่กลัว แต่หมายถึงกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความกลัว ดังนั้น Be Fearless สำหรับผมคือใจถึง พร้อมเผชิญกับทุกสิ่งที่เข้ามา เดินหน้าขาสั่นก็ยังดีกว่าขาสั่นอยู่กับที่ครับ (หัวเราะ)
ถามว่าเวลาทหารไปรบเขากลัวมั้ย ผมว่าทุกคนกลัวครับ การที่เขามาฝึกซ้อม มารวมตัวกันไม่ใช่เพื่อจะมา Motivate กันว่าอย่ากลัวนะ แต่เขามารวมตัวกันเพื่อสอนยุทธวิธีออกรบยังไงให้ชนะและปลอดภัย สร้างกำลังใจและความกล้าหาญให้พร้อมลุย การทำธุรกิจแอมเวย์ก็เหมือนกันครับ บางคนกลัวที่จะเริ่มเพราะไม่รู้วิธีว่าต้องทำแบบไหน ทำให้เกิดความกลัวไปสารพัด ทั้งกลัวเสียเพื่อน กลัวทำไม่ได้ ดังนั้น เขาจึงต้องมาอยู่ในบรรยากาศของคนมีฝันที่พร้อมจะสำเร็จ นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมาก มาอยู่ในบรรยากาศ มาศึกษาเรียนรู้เพื่อให้ทำเป็น พอทำเป็นแล้วคุณจะไม่กลัวครับ
ผมคิดว่าธุรกิจนี้อาจไม่ใช่งานที่ได้ดั่งใจทุกครั้ง แต่ถ้าเราสำเร็จชีวิตของเราได้ดั่งใจแน่นอนครับ (ยิ้ม) และไม่ว่าโลกจะเกิดอะไรขึ้นก็มีคนสำเร็จในธุรกิจแอมเวย์เสมอค่ะ เวลาที่เรารู้สึกว่ามีเรื่องที่อาจเป็นปัญหาหรืออุปสรรค อยากให้ฉุกคิดว่าในธุรกิจนี้ยังมีคนสำเร็จอยู่นะ แล้วทบทวนดูว่าคนสำเร็จเขาคิดยังไง ทำยังไง เชื่อเถอะค่ะว่าแค่ปรับมุมมอง เปลี่ยนวิธีคิดให้เป็นแบบคนสำเร็จ เราก็จะสำเร็จในธุรกิจนี้ได้แน่นอนค่ะ
สมัคร | กันยายน 2544 |
ระดับแพลตินัม | มีนาคม 2547 |
ระดับทับทิม | กรกฎาคม 2548 |
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2548 |
ระดับไพลิน | กรกฎาคม 2549 |
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2553 |
ระดับมรกต | สิงหาคม 2549 |
ระดับมรกตสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2553 |
ระดับเพชร | กรกฎาคม 2551 |
ระดับเพชรสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2567 |
ระดับเพชรบริหาร | สิงหาคม 2567 |
|
คุณจมาพร (ตุ๊กตา) แสงทอง และคุณธัญภ์ไชย (เบล) วิพรสถิตย์ เริ่มธุรกิจเพียง 2 ปีก็เติบโตเป็นเพชร และในปีนี้ทั้งคู่ก็ได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเพชรบริหาร หลายคนอาจมองว่าเพราะมีฐานชื่อเสียงจากการเป็นศิลปินสนับสนุนจึงเติบโตเร็ว แต่สิ่งที่คุณเบลบอกเราคือ “สกิลการเป็นนักร้องเอามาใช้ไม่ได้เลยครับ มันขัดกับการทำธุรกิจมาก มากแบบที่สุด ถ้าจะมีที่ใช้ได้ก็คือเราชินกับการจับไมค์แค่นั้นครับ จับไมค์ถนัดคือร้องเพลง แต่จับไมค์พูดไม่เคยมาก่อนนะครับ”
ตุ๊กตาคิดว่าความยากของการขึ้นจากเพชรมาเป็นเพชรบริหารคือการออกจากความสบายค่ะ นั่นคือบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด พอชีวิตดีเราต้องหาเหตุผลในการไปต่อพอสมควร วินัยก็ต้องมากขึ้น เราสองคนมีเป้าหมายคืออยากมูฟต่อเนื่องเพื่อไปถึงจุดสูงสุด ทำให้ต้องใส่แรงมากกว่าเดิม โฟกัสมากกว่าเดิม พยายามเรียนรู้วิธีสร้างธุรกิจมากกว่าเดิม และมองภาพธุรกิจที่กว้างขึ้นค่ะ
ผมคิดว่าจะเป็นเพชรบริหารต้องตั้งใจเพื่อคนอื่นเยอะมากๆ ครับ ทัศนคติต้องดียิ่งกว่าเดิม ต้องเชื่อยิ่งกว่าเดิม ตอนเป็นเพชรใหม่ๆ จะมีช่วงที่เรารู้สึก เอ๊ย เป็นเพชรแล้วนะ ไม่ต้องทำแบบเดิมก็ได้ แต่ความจริงคือถ้าจะเติบโตไม่ว่าจาก 0% เป็น 21% หรือจากเพชรเป็นเพชรบริหารก็ต้องทำเรื่องเดียวกัน ดังนั้น ยิ่งเติบโตยิ่งต้องลดอีโก้ครับ เรื่องพวกนี้อัปไลน์เคยบอกไว้แล้ว ซึ่งตอนนั้นบางทีเราก็ไม่ได้ยิน (หัวเราะ) พออัปไลน์บอกเราก็มั่นใจว่าไม่เป็นหรอก แต่พอเราเดินมาถึง เออ เป็นจริงๆ มีนาทีที่เราสองคนฉุกใจคิดขึ้นได้ว่า เอ๊ย เราเป็นอย่างที่อัปไลน์เคยบอกไว้แล้วนะ ต้องยอมรับและแก้ไข ยิ่งสำเร็จยิ่งต้องเป็นคนที่ดีขึ้นครับ
ตอนนี้คนเราเจอกันในโซเชียลมีเดียแทบจะเกือบ 24 ชั่วโมงนะคะ ในนั้นมีทั้งคอนเทนต์ที่ดีและที่แอบแฝง เราเองอยากเป็นหนึ่งคอนเทนต์ที่ดีและจริงใจ เพราะเชื่อว่าคอนเทนต์ที่อยู่บนพื้นฐานความจริงจะทำให้เราทำธุรกิจไปได้ตลอด เราจึงให้ความสำคัญกับความจริง ความจริงใจ และความตรงไปตรงมาเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งนี่ช่วยทำให้เราเจอ User และ Partner ที่มีความต้องการเหมือนกันได้ง่ายขึ้นมากค่ะ (ยิ้ม)
สิ่งที่ผมเจอมากับตัวเองคือ เราอยู่ในโลกที่มีคนเชื่อว่ามิจฉาชีพคือตัวจริงและผมคือตัวปลอม แล้วผมต้องทำยังไง (หัวเราะ) นี่ทำให้ผมรู้สึกว่าอะไรที่เป็นของจริงมันก็คือของจริง ในธุรกิจนี้ของจริงไม่ต้องสร้างภาพครับ เราสื่อสารด้วยความจริงใจ ไม่ทำในสิ่งที่เราไม่ได้เป็นเพื่อจะเอาไปลงโซเชียลมีเดีย ให้ดูดี เราเชื่อว่าถ้านำเสนอความจริง ยังไงคนก็สัมผัสได้ครับ
สิ่งสำคัญที่ทำให้สำเร็จเร็วคืออัปไลน์ค่ะ (ยิ้ม) ตุ๊กตาว่า ความสวยงามในธุรกิจนี้ที่ธุรกิจอื่นไม่มีและเป็นสุดยอดพลังพิเศษคืออัปไลน์ การทำธุรกิจแล้วสำเร็จเร็วของเราไม่ได้ใช้ความเก่ง เราแค่เชื่ออัปไลน์ 100% เราลงมือทำมากกว่าจะเสียเวลามานั่งสงสัย เลยตัดทอนช่วงเสียเวลาไปเยอะ ดังนั้น หนึ่งในเทคนิคการทำให้สำเร็จเร็วคือเชื่อคนสำเร็จ ยิ่งเชื่อมาก ยิ่งสำเร็จเร็วมากค่ะ (ยิ้ม)
นอกจากเชื่ออัปไลน์ ผมคิดว่าเพราะเรารู้ว่าเราไม่ได้อยากอยู่แค่ตรงนี้ เราไม่ลืมว่าเราเคยรับปากกับตัวเองว่าจะทำมันให้สุด ดังนั้น ถ้ายังไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้กับตัวเองก็แค่ต้องเดินต่อไปเรื่อยๆ ครับ
เราตั้งใจจะมูฟทุกปีเพื่อเป็นความเชื่อ เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น เพราะเป้าหมายหนึ่งในการทำธุรกิจนี้ก็คือเราอยากเป็นคุณค่าให้กับผู้อื่น อยากให้เขาเข้าใจว่าธุรกิจนี้ไม่ยาก อยากให้เขากล้าที่จะออกมาทำตามฝันของตัวเอง อยากให้ทุกคนเห็นว่าทำให้สุด ใส่แรงทีเดียวจบ และทุกคนทำได้ค่ะ
ผมคิดว่า EQ สำคัญมากกับการเติบโตต่อไป อย่างตอนนี้ถ้าเราออกไปคุยธุรกิจแล้วเอาหัวโขนว่าเราเป็นเพชรบริหารไปด้วย ใจเราจะหนักมากเวลาเจอคนปฏิเสธ เป้าหมายของเราคือมงกุฎทูต ดังนั้น เราต้องพัฒนาตัวเองอีกเยอะมาก ที่เป็นอยู่ตอนนี้ยังไม่ถึงครับ (ยิ้ม) ง่ายๆ เลยนะ ผมมองว่าอัปไลน์อยู่เข็มไหน แล้วเป็นคนแบบไหน คิดแบบไหน ถ้าวันหนึ่งเราคิดได้แบบเขา ทำได้แบบเขา เราก็จะเป็นได้เหมือนเขาครับ (ยิ้ม)
สิ่งสำคัญที่ได้รับจากธุรกิจนี้คือคุณค่าค่ะ เราได้เห็นคนดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพหรือการมีชีวิตที่ดี โลกใบนี้มีทั้งด้านดีและไม่ดี แต่เราอยากเป็นหนึ่งในด้านดีๆ ที่ทำให้ผู้คนมีความหวัง มีความสุข ตุ๊กตาคิดว่านี่คือคุณค่าของมนุษย์ที่เกิดมาบนโลกใบนี้ค่ะ การได้เป็นคุณค่าและเป็นแรงบันดาลใจที่ดีให้คนอื่นตามหลักการของธุรกิจแอมเวย์ที่ว่า You First, Me Second ที่ทำให้เรานึกถึงคนอื่นก่อนตัวเรามันสุดยอดมากนะคะ และสิ่งที่ทำให้ตุ๊กตารักธุรกิจนี้มากคือการได้เป็นคุณค่าให้กับผู้อื่นค่ะ
เป็นเรื่องของคุณค่าเหมือนกันครับ เราได้เปลี่ยนแปลงตัวเองมาในเวอร์ชันที่แบบ โห ดีใจจัง (ยิ้ม) เราชอบตัวเองในเวอร์ชันนี้มากๆ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงตัวเองในช่วงแรกมันฝืนมากนะครับ แต่พอเปลี่ยนแล้วเราชอบ ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะเป็นแบบนี้ได้ จินตนาการไม่ออกเลยครับ
หลายครั้งที่คนเรากลัว ไม่กล้าทำบางอย่าง นั่นเพราะเรามีกรอบชีวิตเยอะค่ะ เช่น เรียนจบมาแบบนี้ต้องทำงานแบบนี้ ต้องเกษียณอายุแบบนี้ เป็นกรอบชีวิตที่จริงๆ แล้วเราอาจไม่อยากได้ แต่เราไม่กล้าที่จะออกมาใช้ชีวิตในแบบที่เราอยากได้ ไม่กล้าแม้กระทั่งจะคิดว่าเราควรมีชีวิตที่ดีกว่านี้ Be Fearless ของตุ๊กตาคือความกล้าที่จะออกไปคิดและใช้ชีวิตนอกกรอบในแบบที่เราอยากเป็นจริงๆ ค่ะ
ผมเชื่อว่าไม่มีใครไม่กลัวครับ ความกลัวต้องมีอยู่ แต่เราจะหายจากความกลัวได้ถ้าเราเผชิญหน้ากับมัน ทำทั้งที่กลัวนี่ล่ะ แล้วพอผ่านไปได้เราจะเริ่มเรียนรู้ ตอนเข้ามาทำธุรกิจนี้ผมก็กลัวนะครับ กลัวที่จะต้องทำเรื่องที่เราไม่เคยทำ เช่น ปกติผมไม่เล่นโซเชียลมีเดีย จะลงรูปครั้งแรกต้องทำเป็นมือลั่น (หัวเราะ) แต่เราทำทั้งที่กลัวเพราะรู้ว่าเป็นขั้นตอนที่จะพาเราไปถึงเป้าหมาย ซึ่งมันทำให้ผมเรียนรู้ว่ามีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นมากมายจากสิ่งที่เราทำเพราะความกลัว การที่เราก้าวข้ามความกลัว กล้าทำสิ่งที่ไม่เคยทำในธุรกิจนี้ มันทำให้คนคนหนึ่งมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ พาพ่อแม่ไปต่างประเทศได้ เราก้าวข้ามความกลัวแล้วได้เห็นภาพเหล่านี้ ผมว่ามันให้ความชื่นใจครับ (ยิ้ม)
หนึ่งชีวิตของเราควรพยายามหาให้เจอค่ะว่าอะไรมีความหมายต่อชีวิตของเรามากที่สุด อะไรคือเป้าหมายในชีวิต สำหรับตุ๊กตาธุรกิจนี้สอนให้เราตั้งโจทย์กับชีวิตเป็นและได้คำตอบของการตั้งโจทย์นั้นว่า มีเครื่องมือซึ่งคือธุรกิจแอมเวย์นี่ล่ะที่ให้ได้ ก็เลยไม่ยากที่จะถึงเป้าหมายในระยะเวลาไม่นาน ฝากให้ทุกคนหาเป้าหมายในชีวิต หาความหมายของการมีชีวิตให้เจอว่า จริงๆ แล้วเราอยากใช้ชีวิตยังไง อยากฝากอะไรไว้กับโลกใบนี้ แล้วเครื่องมือไหนที่ให้เราได้ จากนั้นก็ออกไปคว้ามันมา ทำมันให้สำเร็จ เชื่อว่าทุกคนทำได้ แค่ใช้ความพยายามให้ถูกที่ ตั้งใจทำตามฝัน เรามีชีวิตในแบบที่เราต้องการได้แน่นอนค่ะ
มันจะมีวันที่ไม่ได้ดั่งใจ มีวันที่ผิดหวังมากกว่าวันที่ได้ดั่งใจหรือวันที่สมหวังอยู่แล้วครับ แต่ทุกครั้งที่เราไม่ได้ดั่งใจ สิ่งที่เรามีในธุรกิจนี้ที่ธุรกิจอื่นไม่มีคืออัปไลน์ ไม่ว่ายังไงขอให้เชื่ออัปไลน์ เรื่องที่ไม่ได้ดั่งใจจะอยู่กับเราเพียงชั่วคราว แค่อย่าล้มเลิกไปก่อนเพราะการล้มเลิกไม่เคยแก้ปัญหา ยืนหยัดในสิ่งที่ทำแล้วเราก็จะไปถึงเป้าหมายได้ในที่สุดครับ
สมัคร | เมษายน 2563 |
ระดับแพลตินัม | ธันวาคม 2563 |
ระดับทับทิม | เมษายน 2564 |
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2564 |
ระดับไพลิน | กุมภาพันธ์ 2565 |
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2565 |
ระดับมรกต | กุมภาพันธ์ 2565 |
ระดับมรกตสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2565 |
ระดับเพชร | กรกฎาคม 2565 |
ระดับเพชรสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2566 |
ระดับเพชรบริหาร | สิงหาคม 2567 |
|