บทสัมภาษณ์นักธุรกิจแอมเวย์ระดับเพชรบริหาร และเพชรสองผู้สถาปนา (Cover Story) | นิตยสารอะชีฟ ฉบับตุลาคม 2566
 |
 |
 |
ผ่านทั้งการทำงานประจำและธุรกิจส่วนตัวในตำแหน่งผู้บริหารมาแล้ว แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ธุรกิจแอมเวย์ คุณสิริมนต์ (เปิ้ล) บุญบูรพงศ์ และ คุณพิชญ์ (พ้อย) ชินธรรมมิตร ก็ไม่ต่างจากคนอื่นๆ ที่ในวันเริ่มต้น ทั้งคู่ต้องเผชิญทั้งความไม่เห็นด้วยอย่างมากจากครอบครัว ต้องจัดสรรเวลาจากงานประจำ ธุรกิจส่วนตัว และการดูแลครอบครัวเพื่อมาศึกษาเรียนรู้ แต่ผลลัพธ์ในวันนี้ก็พิสูจน์แล้วว่า ทุกอุปสรรคปัญหาเป็นเพียงความท้าทายที่ข้ามผ่านได้ด้วยความตั้งใจจริง “พอมองย้อนกลับไปผมนึกปัญหาใหญ่โตไม่ค่อยออกนะครับ” คุณพ้อยบอกด้วยรอยยิ้ม “ผมคิดว่า ทุกงานก็มีอุปสรรคปัญหา มีความไม่ได้ดังใจ ในช่วงเริ่มธุรกิจ ตอนที่ผมต้องจัดสรรเรื่องเวลาก็มีความมึนครับ (หัวเราะ) ชีวิตเราทุกคนเป็นเหมือนกราฟที่ถึงจะสวิงเยอะ แต่ถ้าเราค่อยๆ จัด สุดท้ายกราฟนี้ก็จะเริ่มสวิงน้อยลงแล้วเข้าสู่จุดที่สมดุลจุดที่โอเคได้ในที่สุดครับ”
แนวทางหลักในการทำธุรกิจของทั้งคู่คือ เดินตามแนวทางที่คุยกับอัพไลน์ "เพราะในการลงมือทำจริง จะมีความท้าทายที่ต่างกันไปเข้ามาทุกวัน และมีเรื่องส่วนตัวที่เราต้องจัดการ เพื่อให้ตัวเองทำงานพื้นฐานได้สม่ำเสมอ โฟกัสเป้าหมายได้ตลอด เรามองว่า ตัวธุรกิจมีระบบที่ชัดเจน ส่วนใหญ่เป็นการจัดการตัวเองให้ทำธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ต้องขอบคุณ คุณปัญจพล จุรีเกษ - คุณภารดี ปิยนันทวารินทร์ นธอ.ระดับเพชรคู่ และ คุณเชวง คุณชยางกูร - คุณกัญญ์นลิน ปิยนันทวารินทร์ นธอ.ระดับมงกุฎทูตสองผู้สถาปนา ที่แนะแนวทางทำธุรกิจให้เราถึงเป้าหมาย ตั้งแต่วันที่เราเริ่มต้น จนถึงวันนี้ค่ะ"
ผ่านการเรียนรู้มาไม่น้อย ก้าวต่อไปในวันนี้จึงเป็นก้าวที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ ไม่ใช่แค่ตัวธุรกิจแต่ยังรวมไปถึงผู้คน “เราต้องมีความเข้าใจในการพัฒนาคนว่า ทุกคนมีเวลาของตัวเอง บางคนช่วงเวลานั้นอาจยังไม่ใช่จุดที่เขาจะก้าวต่อไป แต่ขอแค่มีใจ เราก็ใช้เวลาร่วมกันในการพัฒนาและก้าวต่อไปได้ ผมมองว่า การดูแลผู้คนในองค์กรก็เหมือนการเลี้ยงลูก บางทีเราต้องพูดซ้ำๆ เขาอาจจะฟังบ้างไม่ฟังบ้าง (หัวเราะ) แต่เขาจะค่อยๆ ซึมซับและพัฒนาไปเรื่อยๆ”
ซึ่งความเข้าใจนี้มีพื้นฐานจากความมุ่งมั่นที่ทั้งคู่อยากจะส่งมอบโอกาสและชีวิตที่ดีให้กับคนในองค์กร และคนทั่วไปเพื่อเป็นการตอบแทน “การทำงานในออฟฟิศอาจไม่มีใครให้เราปรึกษาได้ตลอดเวลาโดยยึดประโยชน์ของเราเป็นหลักแบบที่อัพไลน์ในธุรกิจนี้ทำให้ อัพไลน์ทำให้เราได้พัฒนาตัวเอง ไม่ใช่แค่ในธุรกิจแต่รวมไปถึงการดำเนินชีวิต ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น เราจึงอยาก Pay it Forward ส่งต่อสิ่งนี้ให้กับคนอื่นๆ ซึ่งเป็นเหมือนครอบครัวของเรา เปิ้ลรู้สึกว่าองค์กรเป็นครอบครัวของเราจริงๆ ในธุรกิจอื่นจะทำอะไรเราต้องคิดลบไว้ก่อนเพื่อป้องกันตัวเองต้องระแวดระวัง แต่ในธุรกิจนี้มีแต่ความสบายใจ ความรัก และความห่วงใยกันค่ะ”
“ธุรกิจนี้ให้ความสุข” จึงเป็นคำจำกัดความสิ่งที่ได้รับจากธุรกิจนี้ “มีคุณค่าซ่อนอยู่ในธุรกิจนี้เยอะค่ะ การที่เราได้เห็นคนซึ่งวันแรกเขายังดูทำอะไรไม่เป็นจนกระทั่งได้เห็นความสำเร็จของเขา ถึงแม้บางคนจะยังไม่สำเร็จแต่แค่ได้เห็นพัฒนาการ ได้เห็นคนเริ่มตั้งเป้าหมายเพื่อครอบครัว เห็นเขาดีขึ้นในทุกๆ วัน เป็นทั้งความสุขและความภูมิใจของเราค่ะ” คุณเปิ้ลบอกความรู้สึก คุณพ้อยเสริมว่า “ทุกคนเริ่มต้นใหม่พร้อมกันในธุรกิจนี้ครับ ตอนเข้ามาใหม่ๆ ผมเองก็พูดไม่ได้ทำไม่เป็น เราก็ฝึก หัดครั้งแรกไม่มีใครเก่งครับ ต้องค่อยๆ หัด ค่อยๆ เก็บเกี่ยว เรียนรู้ ทำบ่อยๆ แล้วจะค่อยๆ ทำเป็น และเชี่ยวชาญขึ้นเอง จากเรื่องยากก็กลายเป็นเรื่องง่าย ที่สำคัญผมคิดว่าคนเราใช้เวลาไม่เท่ากันในการไปสู่ความสำเร็จและไม่ต้องไปซีเรียสตรงนั้น เพราะเมื่อถึงเส้นชัย ทุกคนคือคนสำเร็จเหมือนกันหมดครับ (ยิ้ม)”
ขอแค่ยืนหยัดเดินต่อไปในเส้นทาง ความสำเร็จก็ไม่ใช่สิ่งที่ไกลเกินฝัน เป็นคำยืนยันจากทั้งคู่ “อยู่ต่อไป ไม่เลิก ไม่หยุด คนสำเร็จก็เจออุปสรรคปัญหามาไม่ต่างกับที่ทุกคนเจอ ความต่างคือคนสำเร็จเดินต่อจนถึงวันที่สำเร็จ ถึงยังไม่รู้ว่าเป็นวันไหน แต่ถ้ายังเดินต่อไปในเส้นทางนี้ ทุกคนมีวันนั้นเป็นของตัวเองแน่นอนค่ะ”
ลำดับขั้นความสำเร็จ
| สมัคร | กันยายน 2553 |
| ระดับแพลตินัม | กันยายน 2554 |
| ระดับทับทิม | กรกฎาคม 2555 |
| ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2555 |
| ระดับไพลิน | สิงหาคม 2557 |
| ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2562 |
| ระดับมรกต | สิงหาคม 2557 |
| ระดับมรกตสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2562 |
| ระดับเพชร | สิงหาคม 2563 |
| ระดับเพชรสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2565 |
| ระดับเพชรบริหาร | สิงหาคม 2565 |
 |
“เปลี่ยนจากเพชรเป็นเพชรบริหาร เราปรับเยอะมากจนแทบเรียกได้ว่าเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่เลย” เป็นคำบอกเล่าของคุณโชติกา (นุ่ม) วัฒนานิกร และดร.อำนาจ (อาร์ม) ธำรงมาศ ไม่ต่างจากทุกคนที่สำเร็จ ทั้งคู่บอกว่าต้องพัฒนาและเปลี่ยนแปลงตัวเองมาไม่น้อย “เดิมผมเป็นคนเชื่อในความคิดเห็นของตัวเองค่อนข้างสูง ก็ต้องปรับเปลี่ยนเยอะ ทั้งความคิด ความเชื่อ ค่อยๆ ดูจากคนสำเร็จว่าต้องทำอะไร ต้องใช้เวลาครับ” คุณนุ่มบอกว่าตัวเธอเองก็เช่นกัน “นุ่มก็เปลี่ยนเยอะทั้งเรื่องการจัดเวลา การรู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรเพื่ออะไร การที่เดินเข้ามาทำธุรกิจนี้เราไม่ได้มองว่าง่ายหรือยาก แต่มองที่ผลลัพธ์ว่าคุ้มค่าและเราอยากได้ ก็รู้สึกว่าปรับเปลี่ยนได้ พัฒนาได้ค่ะ (ยิ้ม)”
คุณอาร์มเล่าต่อว่า สองสิ่งแรกที่ต้องเริ่มปรับเปลี่ยนคือเป้าหมายและความเชื่อ “งานประจำที่ทำเป็นรูทีนอาจจะไม่ต้องตั้งเป้าหมายอะไรมาก แต่ในธุรกิจนี้ ถ้าเราไม่ตั้งเป้าหมายจริงจัง เราจะไปถึงความสำเร็จได้ช้า เพราะเป้าหมายจะเป็นแกนนำที่พาเราไป อีกเรื่องที่ต้องปรับคือความเชื่อ ที่ผ่านมาเราเคยแต่ต้องเห็นก่อน ต้องได้รับก่อน เราถึงจะเชื่อ แต่ธุรกิจนี้เราต้องมีความเชื่อก่อนถึงจะเกิดการกระทำ และความเชื่อนั้นต้องแข็งแรงด้วย เพราะในช่วงแรกสิ่งที่เราได้รับอาจยังไม่ถึงจุดที่เราอยากได้ เราต้องเชื่อและก้าวเดินต่อไปครับ”
เมื่อก้าวขึ้นสู่ระดับเพชรบริหารที่ทั้งคู่ต้องเรียนรู้และปรับเปลี่ยนความคิดความเชื่อขนานใหญ่ คุณนุ่มเล่าด้วยรอยยิ้มว่า “ที่ผ่านมาเรายังใหม่ในธุรกิจก็คิดแค่ต้องทำงานหนัก ต้องขยัน ตั้งใจ ก็จะเติบโตได้ ซึ่งช่วงแรกได้จริงค่ะ แต่พอจากเพชรมาเป็นเพชรบริหารเป็นคนละเรื่องเลย มีหลายอย่างที่เราเพิ่งได้เรียนรู้ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำความเข้าใจในผู้คนค่ะ” คุณอาร์มขยายความเพิ่มว่า “แต่ก่อนเราให้ความสำคัญเกือบทั้งหมดไปกับการขาย การสร้างยอด ไม่ได้เน้นที่การสร้างคน สร้างองค์กร จนได้รับการโค้ชจากพี่ภูมิ พี่เปิ้ล (คุณภาคภูมิ นิติธรรม - คุณคริสมาส เสถียรวราภรณ์ นธอ.ระดับเพชรคู่) ทำให้เราเปลี่ยนวิธีคิด ไม่งั้นเราคงทำธุรกิจแบบวิ่งขายของไปเรื่อยๆ ครับ”
สิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการก้าวสู่ความสำเร็จคือ “โค้ชครับ สำคัญมาก เรื่องน่ากลัวในการทำอะไรก็ตามไม่ใช่ความไม่รู้ แต่คือการที่เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราไม่รู้” คุณนุ่มอธิบายต่อ “พอเราไม่รู้ว่าเราไม่รู้ เราก็จะตั้งใจทำไปแต่ไม่เห็นผลสักที พอไม่เห็นผลก็อยากจะเลิก เพราะที่ทำได้นั้นเราทำหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าผิดตรงไหน ติดอะไร บางคนบอกทำเยอะๆ สิ แต่นุ่มว่าถ้าไม่รู้ว่าต้องแก้ยังไง ทำเยอะไปก็ไม่เห็นผลเพราะแก้ไม่ถูกจุด ที่ผ่านมาเราตกใจมากที่พบว่า มีบางจุดที่เราไม่เคยรู้เลยและจุดนั้นอาจทำให้เราติดอยู่กับที่ได้เป็นสิบปี แต่เพราะมีคนบอก มีคนสอน ทุกอย่างเลยคลี่คลายและไม่ยากเกินไปค่ะ” การได้โค้ชที่รู้จริงจึงช่วยประหยัดเวลาชีวิตไปได้ คุณอาร์มย้ำ “เก่งแค่ไหนก็ไม่สำคัญเท่ากับมีโค้ชดีครับ (ยิ้ม)”
“แอมเวย์เป็นธุรกิจที่ต้องคิดถึงคนอื่นค่ะ ตอนนี้เรามีเป้าหมายร่วมกันกับทีมว่าจะเติบโตไปเรื่อยๆ อยากทำให้มันสุด เพราะนุ่มเชื่อว่า การที่เราสำเร็จมากขึ้นจะทำให้ทั้งเราเองและคนในองค์กรได้เปลี่ยนชีวิตไปด้วยกัน เราอยากให้เขาสำเร็จถึงจุดที่เปลี่ยนชีวิตตัวเองได้ อยากเป็นความเชื่อให้เขาเห็นว่า ในธุรกิจนี้ความสำเร็จเป็นไปได้ มันไม่เกินจริง ดังนั้นต้องพูดด้วยและสำเร็จให้เขาดูด้วยถึงจะชัดเจนค่ะ (หัวเราะ)”
อย่าเลิก อยู่ให้นานพอ และปรึกษาโค้ช คือสามสิ่งที่ควรทำแล้วจะนำไปสู่ความสำเร็จ “ความสำเร็จในธุรกิจนี้ให้สิ่งที่เกินฝันจริงๆ ครับ ทั้งความมั่นคง ความไร้กังวล และอิสรภาพ ยิ่งสำเร็จมากขึ้น เราก็ยิ่งเข้าใจมากขึ้น ยิ่งรักผู้คนมากขึ้น เรารู้สึกว่าในเมื่อทั้งบริษัท โค้ช และองค์กรช่วยซัปพอร์ตเราขนาดนี้ เราก็ต้องตอบแทนด้วยการสำเร็จให้มากขึ้น เพื่อจะพาให้ทุกคนก้าวสู่ความสำเร็จและเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นไปด้วยกันครับ”
ลำดับขั้นความสำเร็จ
| สมัคร | มกราคม 2557 |
| ระดับแพลตินัม | ธันวาคม 2558 |
| ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2559 |
| ระดับไพลิน | กุมภาพันธ์ 2560 |
| ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2560 |
| ระดับมรกต | กรกฎาคม 2560 |
| ระดับมรกตสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2561 |
| ระดับเพชร | กรกฎาคม 2561 |
| ระดับเพชรสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2565 |
| ระดับเพชรบริหาร | สิงหาคม 2565 |
|