พระราชบัญญัติคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล | นิตยสารอะชีฟ ฉบับกุมภาพันธ์ 2564
| ปัจจุบันเราติดต่อสื่อสารผ่านทางโซเชียลมีเดียกันมากขึ้น รวมถึงใช้เป็นช่องทางในการทำสัญญาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายทางออนไลน์ หรือการสมัครสมาชิกต่างๆ ดังนั้น ความซื่อสัตย์ของคู่สัญญาของเราจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเขาจะได้ข้อมูลส่วนตัวของเราไป เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขบัญชีธนาคาร รวมถึงข้อมูลบัตรเครดิต แล้วเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคู่สัญญาเหล่านั้นจะเก็บรักษาข้อมูลของเราไว้เป็นความลับ เพราะในรายละเอียดสัญญาส่วนใหญ่มีข้อความว่า ข้อมูลดังกล่าวถือว่าเป็นของคู่สัญญาและจะเก็บรักษาข้อมูลไว้อย่างดี อย่างไรก็ตาม เรายังได้รับโทรศัพท์จากสายที่ไม่รู้จักหรือได้รับอีเมลที่มีข้อความหรือโฆษณาที่ส่งให้เราโดยไม่ได้รับอนุญาต (สแปม) |
ในประเทศที่ให้ความสำคัญกับสิทธิ์ของประชาชนต่างมีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวของประชาชนโดยบังคับใช้อย่างเคร่งครัด เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่แอมเวย์ ดังนั้น ในการทำสัญญากับนักธุรกิจ/สมาชิกตั้งแต่แอมเวย์ เริ่มเปิดทำการในประเทศไทย บริษัทจึงดำเนินการตามระเบียบปฏิบัติของบริษัทแม่อย่างเคร่งครัด ซึ่งอาจกล่าวได้ว่านักธุรกิจ/สมาชิกสามารถวางใจในข้อมูลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ และประเทศไทยก็มีกฎหมายประเภทนี้เช่นเดียวกันนั่นก็คือ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือน พฤษภาคม 2564 พระราชบัญญัตินี้ระบุถึงข้อปฏิบัติต่างๆ ที่ทุกภาคส่วนต้องกระทำตามอย่างเคร่งครัด เช่น ข้อความที่ต้องมีในสัญญา รวมถึงจุดหรือตำแหน่งของการแสดงข้อความดังกล่าวด้วย
ดังนั้น สิ่งที่แอมเวย์ประเทศไทยต้องดำเนินการตามกฎหมายคือ บริษัทต้องเพิ่มเติมข้อความในเอกสารสัญญา นั่นคือใบสมัครและ ใบต่ออายุ รวมถึงจุดในการแสดงข้อความดังกล่าวในเอกสารดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ บริษัทขอความร่วมมือนักธุรกิจ/สมาชิกทุกท่านในการกรอกเอกสารดังกล่าวให้ครบถ้วนตามข้อบัญญัติในกฎหมาย
 | สำหรับนักธุรกิจรายใหม่ให้ลงนามในเอกสารใบสมัคร สำหรับนักธุรกิจ/สมาชิกเก่าให้ลงนามให้การยอมรับในเอกสารการต่ออายุ และที่สำคัญ นักธุรกิจ/สมาชิกที่ได้ยื่นคำร้องต่ออายุแบบอัตโนมัติ ทางบริษัทจะส่งลิ้งก์เพื่อให้ท่านตอบรับทางอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งทางอีเมลและข้อความทางแอพพลิเคชั่นไลน์ นอกจากนี้ ท่านสามารถมากรอกเอกสารด้วยตนเองได้ที่แอมเวย์ ช็อป ทุกสาขา |
บริษัทขอย้ำนักธุรกิจแอมเวย์และสมาชิกทุกท่านให้ทำการยอมรับในเอกสารเพื่อทางบริษัทจะสามารถเก็บรักษาข้อมูลของท่านได้ และขอความร่วมมือนักธุรกิจแอมเวย์ระดับแพลตินัมและผู้นำ ช่วยสำรวจนักธุรกิจ/สมาชิกในองค์กรของท่าน โดยจะต้องแล้วเสร็จภายใน วันที่ 30 เมษายน 2564 ซึ่งบริษัทกังวลเป็นอย่างยิ่งเพราะหากท่านใดไม่ได้ให้การยินยอมในเอกสาร อาจส่งผลให้ไม่สามารถนำข้อมูลไปคำนวณรายได้ รวมถึงคุณสมบัติของท่านเหล่านั้นและอัพไลน์สูงขึ้นไป เพราะการกระทำดังกล่าวอาจขัดต่อข้อกฎหมายข้างต้นก็เป็นได้
กฎจรรยาบรรณของแอมเวย์ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของการเป็นนักธุรกิจแอมเวย์ ดังนั้น ทุกท่านจึงควรศึกษาและให้ความสำคัญกับกฎจรรณยาบรรณ เพราะการปฏิบัติตามกฎ จะช่วยให้ธุรกิจของทุกท่านเจริญเติบโตได้อย่างมั่นคง ยั่งยืน และมีเสถียรภาพ อีกทั้งท่านยังสามารถส่งมอบธุรกิจที่มีอนาคตนี้ให้กับลูกหลานของท่านให้สมกับวิสัยทัศน์ของเราที่ว่า “แอมเวย์...เพื่อคุณ เพื่อชีวิตที่มีคุณค่า” นอกจากนี้ ยังเป็นการดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรมและบรรยากาศในการดำเนินธุรกิจที่สอดประสานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอีกด้วย