อากาศสดชื่น ลมเย็นๆ พัดผ่านใบหน้า กลิ่นยอดหญ้าใบไม้เขียวขจี และวิวทิวเขายาวสุดลูกหูลูกตารายล้อมอยู่รอบตัว นี่คือเรื่องจริงหรือเมืองในฝันกันแน่ โอ้! เกือบลืมไปว่าที่นี่คือ สวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนในฝัน
แต่ถ้านี่คือความฝัน ฉันจะหลับตาปล่อยให้จินตนาการผสานไปกับสายลม แล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้นอีกครั้งเพื่อพบกับชายหนุ่มรูปงามตรงหน้า ถือดอกไม้สีขาวดอกเล็กๆ มัดรวมกับเป็นช่อจิ๋วสวยงาม ส่งยิ้มอ่อนหวานพร้อมยื่นช่อดอกไม้นั้นมาให้ฉัน นั่นคือ ดอกเอเดลไวส์ (Edelweiss) หรือราชินีแห่งเทือกเขาแอลป์ ดอกไม้ประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์ ชื่อนี้มาจากภาษาเยอรมัน ถ้าแปลความหมายตรงตัว คำว่า Edel แปลว่า “ประเสริฐ สง่างาม ชั้นสูง” คำว่า Weiss แปลว่า “ขาว” รวมกันจึงแปลว่า “สีขาวที่สง่างามและสูงส่ง” แต่ถ้าแปลตามภาษาดอกไม้จะหมายความว่า “รักแท้” เพราะในสมัยก่อนถ้าชายหนุ่มแถบเทือกเขาแอลป์จะบอกรักสาว จะต้องขึ้นเขาไปหาดอกเอเดลไวส์ที่ขึ้นอยู่สูงประมาณ 1,700 - 2,700 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล บานเพียงปีละ 3 เดือน และมักจะขึ้นตามแนวหน้าผา โอ้โห! เสี่ยงตายหาดอกไม้มามอบแด่เธอเพื่อพิสูจน์รักแท้ที่เขามีให้
กรุ๊งกริ๊งๆ เสียงกระดิ่งจากฝูงวัวดังก้องไพเราะปลุกฉันให้หลุดออกมาจากห้วงจินตนาการ ไม่มีชายหนุ่มรูปงามและไม่มีช่อดอกไม้ใดๆ มีแค่พวงกุญแจดอกเอเดลไวส์ที่ฉันกำไว้อยู่ในมือ หันมองรอบตัวมีแต่เจ้าวัวสีน้ำตาลที่เรียกว่า Braunvieh หรือ Brown Swiss เป็นวัวอารมณ์ดีบนเทือกเขาแอลป์ บ้างนอนผึ่งแดด บ้างยืนเล็มยอดหญ้าสบายใจ ว่ากันว่าสายพันธุ์วัวของสวิสเป็นวัวที่ให้เนื้อคุณภาพสูงและให้น้ำนมปริมาณมากแถมคุณภาพดีเลิศ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์จึงเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงเรื่องนมสด
ชาวสวิสเลี้ยงวัวบนที่ราบสูง บนภูเขาสวยๆ เกือบตลอดปี เพราะบนเขาอุดมด้วยหญ้าที่มีสารอาหารสูง มีน้ำสะอาด มีสภาพแวดล้อมที่ดี อากาศเย็นสบาย วัวที่เลี้ยงบนนี้จึงให้ปริมาณน้ำนมมากถึง 7,200 - 12,000 ลิตรต่อตัวต่อปี และให้ปริมาณโปรตีนในสัดส่วนที่สูงถึง 3.5 - 4.5 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าเป็นน้ำนมที่คุณภาพสูงมาก คนสวิสจึงบริโภคผลิตภัณฑ์จากนมและนมสดประมาณ 450 ลิตรต่อคนต่อปีเลยทีเดียว
วัวสวิสจะอยู่บนเขาช่วงฤดูหนาวไม่ได้ เพราะทุ่งหญ้าจะปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็ง เกษตรกรจะพาวัวลงมาเลี้ยงในพื้นที่ราบแทน จึงมีเทศกาล “พาวัวลงเขา” อันโด่งดังของสวิตเซอร์แลนด์ที่จัดขึ้นในหลายเมือง เกษตรกรจะแต่งตัวในชุดช่วงยุคกลางและตกแต่งวัวของตัวเองให้สวยงามด้วยดอกไม้สีสันสดใส ธงชาติ ที่สำคัญคือเปลี่ยนกระดิ่งห้อยคอจากขนาดเล็กมาเป็นขนาดใหญ่ (Cowbell) ถือเป็นสัญลักษณ์อีกชิ้นหนึ่งของที่นี่เลยก็ว่าได้ ความเป็นเอกลักษณ์ทั้งรูปทรงและขนาดใหญ่เพื่อสร้างเสียงดังกังวานตามจังหวะก้าวขาของวัว