16 FEB 2023 บทความผลิตภัณฑ์ 6 นาทีในการอ่าน 5788 VIEWS 39 แชร์

ยุคดิจิทัลแบบนี้ใช้งานดวงตาหนักไปไหม? | นิตยสารอะชีฟ ฉบับมีนาคม 2566

mar23-health1-04.png

ยุคดิจิทัลแบบนี้ใช้งานดวงตาหนักไปไหม?

mar23-health1-03.png

จ้องจอแทบจะตลอดเวลา
คนไทย 68% สื่อสารผ่านออนไลน์บางคนติดมือถือตลอดเวลา

ใช้ชีวิตกลางแจ้ง
ด้วยกิจกรรมที่ใช้ชีวิตกลางแจ้งมากขึ้น ตาเลยต้องเจอรังสี UV มากขึ้น

เล่นเกมแบบดุดัน
พบว่า 19% ชอบเล่นเกมส์ทั้งในคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตแบบต่อเนื่อง

ดูซีรีส์ทั้งคืน
คน 41% ชอบเสพสื่อบันเทิงดูรายการโทรทัศน์ ดูหนัง ฟังเพลงผ่านทางออนไลน์

แทบจะทั้งวันที่ดวงตาเราจ้องจอและเจอรังสี UV ตลอดเวลา

Gen ไหน ๆ ก็จ้องจอนานขึ้น

ในยุคดิจิทัล ดวงตาของเราทำงานหนักทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเวลาทำงาน หรือเวลาพักผ่อนจากการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยพบว่า คนไทยใช้อินเทอร์เน็ต เฉลี่ยวันละ 7 ชั่วโมง 4 นาที โดยเฉพาะ Gen Y และ Gen Z ใช้อินเทอร์เน็ตไม่ต่ำกว่าวันละกว่า 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว
mar23-health1-05.png
พบว่าอาชีพจ้องจอนานที่สุด คือ
mar23-health1-06.png
* จากการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ประจำปี 2565 โดย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.)

mar23-health1-07.png

จ้องจอนานขนาดนี้ แสงสีฟ้าทำร้ายดวงตาขนาดไหน

ยิ่งใช้สายตามาก ยิ่งทำให้ได้รับแสงสีฟ้า (Blue Light) ซึ่งเป็นคลื่นแสงที่มีพลังงานสูงจากหน้าจอต่างๆ รวมถึงรังสี UV จากแสงแดดที่ก่ออันตราย สร้างความเสียหายต่อดวงตามากขึ้น และอาจนำไปสู่สารพัดโรคทางตาได้ เช่น โรควุ้นในตาเสื่อม โรคต้อกระจก โรคต้อหิน

สำรวจตัวเอง คุณเริ่มมีอาการทางสายตาเหล่านี้แล้วหรือยัง ?
mar23-health1-08.png mar23-health1-09.png
ตาพร่ามัว
โดยเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของแสงอย่างรวดเร็ว หรือแสงน้อย
ตาเบลอ
มองเห็นภาพไม่คมชัด
mar23-health1-10.png mar23-health1-11.png
โฟกัสภาพไม่ดี
โดยเฉพาะเมื่อมีการมองวัตถุระยะใกล้สลับไกล
ตาแห้ง เคืองตา แสบตา
เมื่อจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน

ถึงเวลาดูแลดวงตาของคุณให้ดีด้วยสารอาหารที่ช่วยดูแลสุขภาพสายตาในยุคดิจิทัล


เบต้าแคโรทีน
สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นวิตามินเอในร่างกายได้ ซึ่งวิตามินเอจะเข้าไปช่วยบำรุงจอประสาทตา เพิ่มการมองเห็นในที่ที่มีแสงสว่างน้อยและช่วยรับมือการเปลี่ยนแสงกะทันหันได้ดี

สังกะสี
ช่วยสนับสนุนการทำงานของตัวรับแสงที่อยู่ในจอประสาทตา ทำให้สามารถมองเห็นภาพได้คมชัด

ลูทีนและซีแซนทีน (อัตราส่วน 5:1)
ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของสารสีในบริเวณจุดรับภาพ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็น และช่วยปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้าทำให้สบายตาเวลาที่จ้องหน้าจอนานมากเกินไป

ไลโคปีน
จะสะสมอยู่ที่กล้ามเนื้อซิลิอารี่บอดี้ (Ciliary Body) ที่คอยทำหน้าที่ปรับความโค้งของเลนส์ตา ที่ใช้สร้างสารน้ำตาในลูกตา ช่วยลดอาการตาล้าจากการใช้จอเป็นเวลานาน และช่วยให้ตาสามารถปรับโฟกัสภาพในระยะต่างๆ ได้ดีขึ้น



ปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้า ด้วยสารอาหารจากธรรมชาติ

mar23-health1-12.png
เบต้าแคโรทีน
สกัดจากสาหร่าย Dunaliella ยังได้รับการรับรองNutricert จากฟาร์มของพันธมิตรของนิวทริไลท์ในออสเตรเลีย
ไลโคปีน
สกัดจากมะเขือเทศปลูกและเก็บเกี่ยวในฟาร์มพันธมิตร Nutricert ของนิวทริไลท์ในอิสราเอล
ลูทีนและซีแซนทีน (อัตราส่วน 5:1)
สกัดจากดอกดาวเรืองที่ปลูกและเก็บเกี่ยวในฟาร์มที่ได้รับรอง Nutricert จากฟาร์มพันธมิตรในอินเดีย
สังกะสี
มาจากสารที่ชื่อซิงค์กลูโคเนต ซึ่งเป็นสังกะสีที่ถูกยึดติดกับเกลือกรดกลูโคนิก ทำให้เป็นสังกะสีที่มีความเสถียร ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ดี
สารอาหารเหล่านี้ช่วยปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้าทั้ง 4 ด้าน
mar23-health1-13.png mar23-health1-14.png
ช่วยสนับสนุนการปรับสายตาในสภาพแสงน้อยและเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของแสงอย่างกะทันหัน ช่วยให้การมองเห็นภาพคมชัด
mar23-health1-15.png mar23-health1-16.png
สนับสนุนการโฟกัสภาพเมื่อมองสลับไปมาระหว่างวัตถุที่อยู่ใกล้หรือไกล

ช่วยให้สบายตาเวลาจ้องจอดิจิทัลเป็นเวลานานและช่วยปกป้องดวงตาจากรังสี UV หรือแสงสีฟ้า



ปกป้องดวงตาให้ดียิ่งขึ้นด้วยไอ-เบลนด์ ใหม่

ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อ ช่วยปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้าโดยเฉพาะ
mar23-health1-17.png
สารสำคัญต่อ 1 เม็ด

ลูทีน (สารสกัดจากดอกดาวเรือง) 5 มก.
วิตามินเอ 350 หน่วยสากล
สารสกัดบิลเบอร์รี
สารสกัดแบล็คเคอร์แรนต์
สปิแนชเข้มข้น

กลุ่มเป้าหมาย

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพสายตาทั่วไป

mar23-health1-18.png
สารสำคัญต่อ 1 เม็ด

ลูทีน (สารสกัดจากดอกดาวเรือง) 12 มก. และซีแซนทีน (สารสกัดจากดอกดาวเรือง) 2.4 มก. (อัตราส่วน 5:1)
เบต้าแคโรทีน 2,500 มคก. ให้วิตามินเอ 1,387 หน่วยสากล
ไลโคปีน
สังกะสี

กลุ่มเป้าหมาย

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพสายตาในยุคปัจจุบันที่มีการใช้อุปกรณ์ดิจิทัลมากขึ้น