02 NOV 2021 คอร์ปอเรตและกิจกรรมเพื่อสังคม 2 นาทีในการอ่าน 1610 VIEWS

แอมเวย์ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมขายตรงไทยสู่ยุคดิจิทัล

แอมเวย์ ในปีที่ 34 กับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมขายตรงไทยก้าวผ่านความท้าทายทุกวิกฤต
ปรับเปลี่ยนสู่การดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล

 

Forbes_1.jpg

 

ข่าวประชาสัมพันธ์: 21/06/2564

In the News Forbes Thailand

 

นับเป็นปีที่ 34 แล้วที่แอมเวย์ได้เข้ามาร่วมเป็นหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนอุตสากรรมขายตรงไทย โดยการที่จะสามารถดำเนินธุรกิจมาได้ยาวนานขนาดนี้ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งในช่วงที่ผ่านมาที่ทุกธุรกิจได้ประสบกับวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ต้องอาศัยการปรับตัวและปัจจัยต่างๆ ในการร่วมฝ่าวิกฤติ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจให้มีความเติบโตได้ในทุกสถานการณ์ และสามารถยืนอยู่ในใจผู้บริโภคอยู่เสมอ

กิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ปัจจัยความสำเร็จของแอมเวย์ที่สามารถดำเนินธุรกิจและครองใจผู้บริโภคมาได้ยาวนานกว่า 34 ปี คือ ความน่าเชื่อถือขององค์กรที่ควบคู่มากับคุณภาพของสินค้าที่เป็นที่ยอมรับในกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจด้านสุขภาพ รวมถึงความแข็งแกร่งของวิสัยทัศน์ที่ต้องการมอบคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้คน”

โดยในปีที่ผ่านมาที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นับเป็นวิกฤติใหญ่ที่ทุกคนได้เจอ ถือเป็นความท้าทายอย่างมากของเหล่าธุรกิจในการปรับตัวเพื่อรักษาธุรกิจให้อยู่รอดในสถานการณ์ที่ไม่ได้คาดคิด แอมเวย์มีการปรับตัวให้มีความพร้อมอย่างครบถ้วนในทุกๆ ด้าน ได้แก่

  • Infrastructure: การซื้อสินค้าบนช่องทางออนไลน์ต้องไม่สะดุด ไร้รอยต่อ แพลตฟอร์มต้องใช้ง่าย สะดวกและรวดเร็ว
  • Logistic: เนื่องจากการผลิตหรือการขนส่งจากต่างประเทศหยุดชะงัก การขนส่งต้องไม่ล่าช้า การจัดการสต็อคสินค้าจะต้องวางแผนและทำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้ซื้อ
  • Communications: การสื่อสารภายในองค์กรกับพนักงาน รวมถึงสื่อสารภายนอกกับนักธุรกิจแอมเวย์และสมาชิก ต้องชัดเจนและมีการปรับให้ทันกับทุกสถานการณ์ เพื่อให้สื่อสารไปในแนวทางเดียวกัน

ซึ่งในด้านของการสื่อสารแอมเวย์ได้มีการปรับตัวอย่างโดดเด่น โดยแอมเวย์ได้มีการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัยรวมถึงมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อยู่เสมอ แบรนด์จึงเป็นที่นึกถึงมากขึ้นในกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีการปรับช่องทางการสื่อสาร ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การสื่อสารในรูปแบบออฟไลน์ ถูกปรับไปเป็นออนไลน์เกือบทั้งหมด ทำให้การแชร์ข้อมูลสินค้าถึงกลุ่มผู้บริโภครวดเร็วและเกิดการบอกต่อเป็นวงกว้างมากขึ้น นักธุรกิจแอมเวย์ได้ประสบการณ์ใหม่จากการจัดอบรมแบบออนไลน์ของบริษัทและที่สำคัญกว่านั้นคือการสื่อสารแบบออนไลน์ช่วยสนับสนุนนักธุรกิจแอมเวย์สามารถสร้าง Personal Branding ผ่านโซเชียลแพลตฟอร์มส่วนตัว และสามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้น่าสนใจจนกลายเป็นทำให้ทุกคนสามารถเป็น Micro Influencer ได้ นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มกิจกรรมทางการตลาดอยู่ตลอดเวลา เช่น การจัด Flash Sales หรือ Double Day Promotion เพื่อกระตุ้นให้เกิดบรรยากาศการซื้อของมากยิ่งขึ้น

 

Forbes_2.jpg

 

และในปีนี้แอมเวย์มีทิศทางในการดำเนินธุรกิจ คือการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมช่วยในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยจะใช้เทคโนโลยี ในการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม ทำให้ธุรกิจแอมเวย์เป็นเรื่องง่าย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของทุกคนได้ โดยจะเห็นได้ชัดจากการที่แอมเวย์ทุ่มงบลงทุนด้านการพัฒนาเทคโนโลยีในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อย่างการเพิ่มช่องทางการซื้อสินค้าบนออนไลน์แพลตฟอร์มของบริษัท การเข้าถึงข้อมูลสินค้าและการติดต่อสอบถามเรื่องต่างๆ ด้วย แชทบอตและล่าสุดได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน Amway Click เพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจให้สะดวกครบจบในที่เดียว โดยถือเป็นการ Simplified shopping experience ครั้งใหญ่ของแอมเวย์ประเทศไทย และเสริมทัพกับความเป็นเลิศด้านนวัตกรรม โดยจะนำเสนอสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาพในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้สินค้าตรงความต้องการของผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย มากยิ่งขึ้น

 

2_Amway-AmwayClick_application.jpg

 

“เราต้องมีความจริงใจกับผู้บริโภค ทำให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า เพื่อครองใจผู้บริโภคอยู่เสมอ รวมถึงเราต้องหมั่นปรับตัวและพัฒนาองค์กรเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจท่ามกลางสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างไหลลื่น และต้องไม่ลืมที่จะมอบโอกาสในการสร้างรายได้และสนับสนุนเหล่านักธุรกิจแอมเวย์ที่เป็นดังคนสำคัญขององค์กรของเราเช่นกัน” กิจธวัช กล่าวทิ้งท้าย