สิวที่หลัง เกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งจากเหงื่อ เสื้อผ้าและเครื่องนอนที่ใช้ ทั้งนี้ เราสามารถป้องกันและรักษาสิวที่หลังได้ด้วยการรักษาความสะอาด และเลือกใช้สบู่หรือครีมอาบน้ำที่มีส่วนผสมช่วยลดการเกิดสิว
สิวที่หลังเกิดจากอะไร? สิวที่หลังเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งเรื่องของการรักษาความสะอาด ยาที่ใช้อยู่ หรือกรรมพันธุ์ก็อาจเป็นสาเหตุของสิวที่หลังได้ โดยสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดสิวที่หลัง มีดังนี้
‘สิว’ มีอยู่หลายประเภทด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสิวหัวช้าง สิวหัวขาว สิวหัวดำ ฯลฯ สิวที่หลังก็มีลักษณะเดียวกันกับสิวบนใบหน้า โดยแบ่งออกได้ 5 แบบ ดังนี้1
สิวหัวดำ สิวหัวดำ หรือสิวอุดตันหัวเปิด มีลักษณะเป็นตุ่มนูนขนาดเล็ก มีรูเปิดออกจนเห็นหัวสิว บริเวณหัวสิวจะมีจุดสีดำ ซึ่งเกิดจากน้ำมันทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ จนเปลี่ยนสีของไขมันเป็นสีดำนั่นเอง
สิวหัวขาว สิวหัวขาว หรือสิวหัวปิด มีลักษณะเป็นตุ่มนูน ไม่มีรูเปิดออก จึงทำให้สิวหัวขาวมีลักษณะเหมือนก้อนไตแข็งๆ ขึ้นที่ใต้ผิวหนัง สิวหัวขาวชนิดนี้มีรากสิวที่ฝังลึก และจะค่อยๆ นูนขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นสิวอักเสบ
สิวไม่มีหัว สิวไม่มีหัว หรือสิวตุ่มนูนแดง เป็นตุ่มสิวที่มีลักษณะบวมนูน มีสีแดงเป็นก้อนแข็ง เมื่อสัมผัสหรือลูบอาจรู้สึกเจ็บได้ โดยสิวชนิดนี้ไม่ควรบีบ หรือกดสิวออกมา เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้น
ซีสต์ สิวซีสต์เป็นสิวอักเสบที่มีความรุนแรงมากที่สุด มีลักษณะเป็นก้อนบวมแดงขนาดใหญ่ เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนร่วมกับมีเชื้อแบคทีเรียเข้าไปผสม ทำให้เกิดการอักเสบอย่างหนัก
สิวเป็นไต มีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการเจ็บ เวลาสัมผัสจะรู้สึกเป็นก้อนแข็ง มักเกิดบริเวณหน้าผากหรือคาง
จะเห็นได้ว่าสิวที่หลังนั้นมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งจากปัจจัยภายนอกอย่างสภาพอากาศ ยาที่ใช้ หรือสาเหตุจากปัจจัยภายใน เช่น ความเครียด ฮอร์โมน ฯลฯ ล้วนส่งผลให้เกิดสิวได้ทั้งนั้น เพื่อป้องกันการเกิดสิวที่หลัง สามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้2
สำหรับวิธีการเลือกใช้สบู่ที่ดีนั้น ควรเลือกสบู่ที่เหมาะกับสภาพผิวของผู้ใช้ เพราะผิวหนังของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน บางคนผิวมัน บางคนผิวแห้ง การเลือกใช้สบู่ที่ตรงกับสภาพผิวของตนเองเป็นวิธีที่ตอบโจทย์การรักษาสิวที่หลังมากที่สุด โดยสบู่ที่ช่วยรักษาสิวที่หลัง ควรเป็นสบู่ที่ช่วยรักษาสมดุลไมโครไบโอม หรือจุลินทรีย์ดีที่อยู่บนผิวหนังนั่นเอง1
ไมโครไบโอมผิว6 คือจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่บนผิวหนัง ซึ่งสามารถแปรสภาพได้ตามคุณสมบัติทางชีวภาพและกายภาพของผิวหนัง อายุ เพศ กิจวัตรประจำวัน ไปจนถึงโรคประจำตัว โดยจำนวนกับชนิดของจุลินทรีย์มีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม เช่น ความชุ่มชื้น กรด-ด่าง บริเวณของร่างกาย สารเคมีที่สัมผัสกับผิวหนัง เป็นต้น สำหรับจุลินทรีย์บางชนิด มีความสามารถในการสร้างสารปฏิชีวนะทำลายแบคทีเรียอื่นได้ จึงทำให้เกิดเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ บ้างก็ทำให้เกิดกรดอ่อนๆ ช่วยลดเชื้อโรคบนผิวหนังได้ การรักษาไมโครไบโอมผิวให้มีจุลินทรีย์ดีมากกว่าเชื้อโรค แบคทีเรีย และไวรัส จึงเป็นส่วนที่ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี
การนอนหลับพักผ่อน จะทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานอย่างเป็นปกติ ทั้งสมดุลของฮอร์โมน การผลัดเซลล์ผิว การแลกเปลี่ยนออกซิเจนในเลือด และยังช่วยลดความเครียด ความอ่อนเพลีย ที่ส่งผลทำให้ผิวสุขภาพดีได้อีกด้วย
คนที่เหงื่อออกง่าย ควรเลือกเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี และหมั่นเปลี่ยนเสื้อใหม่ที่สะอาดอยู่เสมอหลังจากออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงเยอะๆ นอกจากนี้ ยังควรซักผ้าเช็ดตัวและเครื่องนอนอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค และลดโอกาสการเกิดสิวที่หลัง
ยาบางชนิดเมื่อทานแล้ว อาจส่งผลให้เกิดสิวได้ โดยสิวที่เกิดจากยามักเป็นสิวอักเสบ สิวหัวแดง มีหนอง โดยเฉพาะสิวสเตียรอยด์ มักเกิดบริเวณส่วนต่างๆ ของร่างกายที่ไม่ใช่ใบหน้า เช่น สิวที่หลัง สิวที่บ่า สิวที่หน้าอก สำหรับยาที่ควรหลีกเลี่ยง มีดังนี้
สกินแคร์ที่มีส่วนของน้ำมันจะมีเนื้อที่มัน ลื่น และหนาเป็นส่วนใหญ่ เหมาะใช้เคลือบผิวหลังจากลงครีมบำรุงเพื่อป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น แต่ในทางกลับกัน หากกระบวนการผลัดเซลล์ของผิวไม่สมดุล ก็อาจทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนได้ง่าย และทำให้เกิดสิวในที่สุด ผู้ที่เป็นสิวง่าย จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ควรเลือกสูตรที่มีความมันน้อย หรือใช้ส่วนผสมเคลือบผิวประเภทอื่นๆ ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน เช่น เซราไมด์ หรือกลีเซอรีนจากพืช จะดีกว่า
การใช้เป้สะพายหลัง สามารถทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน เพราะเป้ที่หนัก เมื่อสัมผัสกับเสื้อผ้านานๆ จะทำให้เกิดความร้อนและอับชื้น กระตุ้นให้เกิดเหงื่อ และนำมาสู่การเกิดสิวที่หลังในท้ายที่สุด
ผู้ที่มีปัญหาสิวที่หลัง สามารถเริ่มรักษาสิวที่หลังด้วยตนเองได้ง่ายๆ ด้วยการเลือกใช้สบู่ที่มีส่วนผสมเฉพาะ การดูแลความสะอาดของร่างกายและของใช้ ไปจนถึงการรับประทานอาหาร ดังนี้
การรักษาสิวที่หลังด้วยสบู่ลดสิว ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ราคาย่อมเยากว่าการรักษาด้วยเลเซอร์ หรือการทานยา สบู่ลดสิวที่ดี จะต้องมีส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น อ่อนโยนต่อผิว มีส่วนผสมที่ช่วยลดการเกิดสิว เพื่อป้องกันสิวที่หลัง ได้ผิวที่มีสุขภาพดีกลับคืนมา
เซราไมด์จากน้ำมันมะกอกเป็นสารชนิดพิเศษที่ช่วยรักษาเกราะปกป้องความชุ่มชื้นผิว ให้ผิวคงความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนาน
เมล็ดเชียขาวเป็นหนึ่งในสุดยอดอาหารจากธรรมชาติ อุดมด้วยไฟโตนิวเทรียนท์และสารต้านอนุมูลอิสระ น้ำมันจากเมล็ดเชียขาวจึงช่วยบำรุงและปกป้องผิวให้สวยสุขภาพดีอย่างเห็นได้ชัด
ไม่ว่าจะเป็นสิวที่ใบหน้า ที่แขน หรือสิวที่หลัง การบีบสิวด้วยตนเองเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสิวที่หลัง เป็นสิวที่อยู่ในมุมที่กดได้ยาก และหากกดสิวไม่หมด หรือกดผิดวิธีอาจทำให้สิวบวม แดง อักเสบมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังต้องพยายามหลีกเลี่ยงการแคะ แกะ เกา สิวที่หลัง เพื่อลดการแพร่ของเชื้อโรค
หมั่นรักษาความสะอาดร่างกายอยู่เสมอ ล้างมือทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ อาบน้ำวันละ 2 ครั้ง หรือหลังทำกิจกรรมหนักๆ มา โดยใช้เวลาถูสบู่และชำระล้างอย่างน้อย 15 นาที เพื่อให้มั่นใจว่า คราบเหงื่อ และสิ่งสกปรก ได้ถูกขจัดออกไปอย่างหมดจด ลดการสะสมของเชื้อโรค และควรใช้ผ้าขนหนูสะอาดเช็ดตัวให้แห้งสนิท ก่อนเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อลดความอับชื้นในผิวหนัง
การซักเครื่องนอนบ่อยๆ ช่วยบรรเทาการเกิดสิวที่หลังได้ เพียงถอดผ้าปูที่นอนออกมาซักอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อลดการสะสมของสิ่งสกปรก และเชื้อโรค ซึ่งการถอดผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนออกมาซักบ่อยๆ ยังช่วยลดไรฝุ่นที่มาเกาะกินเศษผิวหนังของเรา ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคภูมิแพ้ และโรคทางผิวหนังอื่นๆ ได้อีกด้วย
การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ สามารถช่วยลดตัวกระตุ้นการเกิดสิวที่หลังได้ การดื่มน้ำเยอะๆ การกินผักและผลไม้ หลีกเลี่ยงการทานของหวาน หรือของทอดที่มีน้ำมันจำนวนมาก เพื่อลดการสะสมของไขมัน
การขัดผิวช่วยลดสิวที่หลังได้ โดยให้หลีกเลี่ยงการขัดผิวตรงจุดที่เป็นสิวอักเสบ เพราะอาจทำให้สิวอักเสบมากขึ้น สามารถใช้เป็นสครับขัดผิวที่มีส่วนผสมของแบมบู คอมเพล็กซ์ วอเตอร์ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ไม่ทำให้ผิวแห้งหรือสูญเสียความชุ่มชื้น
นอกจากนี้ควรมีส่วนผสมที่เป็นเกราะปกป้องความชุ่มชื้นของผิวได้อย่างเซราไมด์จากน้ำมันมะกอก และสารสกัดวิตามินซีจากกรีนอะเซโรลาเชอร์รี ให้การปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ เมื่อขัดผิวเป็นประจำ จะทำให้ผิวแข็งแรง และไม่กลับมาเกิดสิวที่หลังอีก
วิธีการแก้ปัญหาสิวที่หลัง สามารถเริ่มง่ายๆ ด้วยการเลือกสบู่ที่เหมาะกับผิวของตนเอง เพียงเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใชัอยู่ มาเป็นสูตรที่มีเซราไมด์เพิ่มความชุ่มชื้น มีสารต้านอนุมูลอิสระลดการอักเสบ และไม่มีสารทำความสะอาดกลุ่มซัลเฟตที่อาจก่อการระคายเคือง ก็จะเป็นตัวช่วยบรรเทาอาการสิวที่หลังได้
สบู่ที่มีสูตรอ่อนโยน จะดีต่อผิวที่กำลังเกิดสิว เนื่องจากขณะเป็นสิวที่หลัง ผิวหนังของเราจะเกิดการอักเสบตามมา หากใช้สบู่ที่มีค่า pH ไม่สมดุล จะยิ่งก่อให้เกิดการระคายเคือง จึงแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีข้อความรับรองคุณภาพบนสลาก ยกตัวอย่าง เช่น
สบู่ที่ดี เหมาะกับการรักษาสิวที่หลังควรเป็นสบู่ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยปราศจากน้ำมันและซิลิโคน ส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นตัวสำคัญอย่างเซราไมด์จากธรรมชาติจึงทำหน้าที่สำคัญในการเป็นเกราะป้องกันผิว กักเก็บความชุ่มชื้นไว้ใต้ชั้นผิว ซึ่ง ‘เซราไมด์’ ก็คือกรดไขมันชนิดหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของชั้นผิวหนัง ช่วยลดการอักเสบ ฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมานุ่ม ชุ่มชื้น5
สำหรับผู้ที่เป็นสิวที่หลังนั้น ควรเลือกสบู่ที่มีสูตรอ่อนโยน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวหนัง โดยสบู่ลดสิวควรมีส่วนผสมที่ช่วยรักษาสิวที่หลัง ดังต่อไปนี้
นอะซินาไมด์ หรืออีกชื่อหนึ่ง คือ วิตามินบี 3 เป็นสารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวอย่างครอบคลุมตั้งแต่การปรับสีผิว ลดรอยสิว ริ้วรอย แล้วยังลดการอักเสบ ลดเชื้อแบคทีเรียบนผิวได้อีกด้วย
วิตามินซี เป็นวิตามินชนิดที่สามารถละลายในน้ำได้ โดยวิตามินซีมีสรรพคุณในการบำรุงผิวหนัง ช่วยปรับผิวหมองให้ดูกระจ่างใส ฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรง อีกทั้งยังช่วยลดรอยสิว ลดการอักเสบของสิวที่หลัง
วิตามินเอ เป็นวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย พบมากในผักและผลไม้ที่มีสีเหลือง ส้ม แดง และเขียวเข้ม วิตามินเอช่วยลดโอกาสการเกิดสิว ลดการอักเสบได้ดี
เมล็ดเชียขาว มีส่วนประกอบของโอเมก้า 3 ที่เป็นกรดไขมันเข้มข้นสูง รวมถึงอุดมไปด้วยไฟโตนิวเทรียนท์และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยรักษาสมดุลของไมโครไบโอมของผิวหนัง เสริมเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวกลับมาแข็งแรง มีสุขภาพดีอีกครั้ง ลาขาดจากการเป็นสิวที่หลัง
พรีไบโอติก คือ อาหารของโพรไบโอติกเป็นสิ่งที่ร่างกายย่อยไม่ได้ แต่ช่วยเสริมสร้างจุลินทรีย์ดีในร่างกายให้เจริญเติบโต แข็งแรง เกิดไมโครไบโอมผิวที่ดี และเมื่อจุลินทรีย์บนผิวหนังมีความสมดุลก็จะสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ เป็นเกราะป้องกันตามธรรมชาติ ที่ทำให้ผิวมีสุขภาพดี ลดโอกาสการเกิดสิวนั่นเอง
ชาเขียว มีส่วนผสมของสารสำคัญที่ช่วยรักษาสิวที่หลังถึง 2 ชนิด ได้แก่
เป็นเชอร์รีสายพันธุ์ที่โด่งดังเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เป็นผลไม้ที่มีคุณประโยชน์หลากหลาย อุดมไปด้วยวิตามินซี และสารไฟโตนิวเทรียนท์ หรือสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดสิว ลดโอกาสเกิดสิวที่หลัง ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น7
สิวที่หลังเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งจากกรรมพันธุ์ พฤติกรรมของแต่ละบุคคล รวมถึงความเครียด ก็สามารถก่อให้เกิดสิวที่หลังได้ทั้งนั้น โดยวิธีรักษาสิวที่หลังแบบง่ายๆ ที่มีขั้นตอนไม่ซับซ้อนคือ การใช้สบู่ลดสิวที่มีส่วนผสมปรับสมดุลไมโครไบโอมในผิว ต้านอนุมูลอิสระ ลดความมัน เช่น ชาเขียว ไนอะซินาไมด์ และวิตามินต่างๆ เพื่อให้ได้ผิวที่เรียบเนียน มีสุขภาพดีกลับคืนมา รวมถึงในปัจจุบันยังมีผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มวีแกนที่ขึ้นทะเบียนกับสมาคมมังสวิรัติ ที่ปราศจากส่วนผสมที่มาจากสัตว์ และไม่ทำการทดลองในสัตว์ จึงเป็นอีกทางเลือกที่ดี สำหรับการดูแลสุขภาพผิวและใส่ใจสัตว์ไปพร้อมกัน