วิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศในห้องนอน กรองฝุ่นขนาดเล็ก ป้องกันภูมิแพ้

การเลือกเครื่องฟอกอากาศในห้องนอน ควรเลือกให้เหมาะสมกับขนาดห้อง และเลือกระบบฟอกอากาศที่สามารถดักจับอนุภาคฝุ่นขนาดเล็ก กรองไวรัส แบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้

ความสำคัญ และประโยชน์ของการมีเครื่องฟอกอากาศในห้องนอน

แม้ว่าปัจจุบันสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 จะผ่อนคลายลงแล้ว แต่ในชีวิตประจำวันของทุกคนก็ยังคงต้องเผชิญกับฝุ่น PM2.5 ฝุ่นละออง ไรฝุ่น และสารก่อภูมิแพ้อื่นๆ อยู่ตลอดเวลา แม้แต่ในเวลาการพักผ่อน ดังนั้น การฟอกอากาศในห้องนอนให้มีความสะอาดจึงเป็นสิ่งสำคัญ

หลายคนหันมาใช้เครื่องฟอกอากาศ เพื่อช่วยกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กที่แปลกปลอมในอากาศ รวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ โดยมีวิธีการทำงานในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้แสงยูวี ระบบดูดซับกลิ่น การใช้ไฟฟ้าสถิตย์ หรือการสร้างโอโซนในการกำจัดเชื้อโรค ก่อนที่จะปล่อยอากาศสะอาดเข้ามาในห้องแทน ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีความปลอดภัยจากสิ่งแปลกปลอมในอากาศชนิดต่างๆ¹

เนื่องจากห้องนอนเป็นห้องที่ผู้อยู่อาศัยใช้เวลาด้วยมากที่สุด ดังนั้น หากอากาศในห้องนอนสะอาด ย่อมส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพที่ดีตามไปด้วย การมีเครื่องฟอกอากาศไว้ในห้องนอนจึงมีประโยชน์ ดังนี้

ลดสารก่อให้เกิดภูมิแพ้และมลพิษ ช่วยให้นอนหลับได้ลึกขึ้น

โดยปกติแล้ว การนอนหลับ คือ การหายใจเข้าออก โดยเป็นการนำเอาอากาศจากบริเวณเดียวกันเข้าไปในร่างกายเป็นระยะเวลานาน ซึ่งอากาศในบริเวณที่เรานอนอาจเป็นอากาศที่ไม่สะอาด หรือปนเปื้อนสารก่อภูมิแพ้ และเชื้อโรคต่างๆ ดังนั้น การมีเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนก็จะช่วยลดสารก่อภูมิแพ้ และสิ่งแปลกปลอมในอากาศได้ ทำให้ภายในห้องนอนมีอากาศที่สะอาดขึ้น ช่วยกรองไวรัส เชื้อโรค และแบคทีเรียต่างๆ ไม่ให้มารบกวนการนอน ทำให้สามารถนอนหลับได้สนิท หรือนอนหลับลึกได้ตลอดทั้งคืน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศด้วย

ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในห้องนอน

กลิ่นไม่พึงประสงค์ในห้องนอนเป็นสิ่งขัดขวางการพักผ่อนอย่างยิ่ง เครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นคาร์บอนกรองอากาศจะช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ และทำให้อากาศสะอาดบริสุทธิ์มากขึ้น ส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยสามารถนอนหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มที่

วิธีการเลือกเครื่องฟอกอากาศในห้องนอน

ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ควรทำความเข้าใจถึงข้อมูลเบื้องต้น เพื่อเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมกับขนาดพื้นที่ และความต้องการของตนเองก่อน โดยข้อคำนึงก่อนตัดสินใจซื้อเครื่องฟอกอากาศมีดังนี้

ขนาดพื้นที่ของห้องนอน

ขนาดของห้องนอน ถือเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกเครื่องฟอกอากาศ เพราะเครื่องฟอกอากาศแต่ละรุ่นผลิตมาเพื่อรองรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดต่างกัน ก่อนอื่นควรทำความรู้จักกับอัตรา CADR (Clean Air Delivery Rate) หรืออัตราการส่งผ่านอากาศบริสุทธิ์กันก่อน CADR มีหน่วยเป็น CFM (Cubic Feet per Minute) หรือลูกบาศก์ฟุตต่อนาที โดยมีเกณฑ์แนะนำในการใช้เครื่องฟอกอากาศในห้องขนาดต่างๆ เช่น

• พื้นที่ห้อง 19 ตารางเมตร ค่า CADR ที่แนะนำ คือ 130 CFM

• พื้นที่ห้อง 26 ตารางเมตร ค่า CADR ที่แนะนำ คือ 200 CFM

• พื้นที่ห้อง 40 ตารางเมตร ค่า CADR ที่แนะนำ คือ 300 CFM

• พื้นที่ห้อง 53 ตารางเมตร ค่า CADR ที่แนะนำ คือ 400 CFM

• พื้นที่ห้อง 66 ตารางเมตร ค่า CADR ที่แนะนำ คือ 472 CFM

• พื้นที่ห้อง 88 ตารางเมตร ค่า CADR ที่แนะนำ คือ 688 CFM

สำหรับการเลือกเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนขนาดใหญ่ สามารถเลือกใช้เครื่องกรองอากาศ แอทโมสเฟียร์ สกาย เพราะสามารถฟอกอากาศได้สูงสุดถึง 300 CFM ด้วยมอเตอร์คุณภาพสูงจากประเทศเยอรมนี พร้อมการทดสอบในห้องขนาด 43 ตารางเมตร หรือหากต้องการใช้เครื่องฟอกอากาศในห้องนอนขนาดเล็ก สามารถเลือกเป็นเครื่องกรองอากาศ แอทโมสเฟียร์ มินิ ที่ทำความสะอาดอากาศภายในห้องขนาด 19 ตารางเมตร ด้วยอัตราการกรองอากาศสูงถึง 130 CFM เหมาะสำหรับห้องขนาด 19 ตารางเมตร

ประสิทธิภาพของแผ่นกรองอากาศ

การเลือกเครื่องฟอกอากาศในห้องนอน ควรพิจารณาถึงแผ่นกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องสิ่งปนเปื้อนในอากาศได้ เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์เครื่องกรองอากาศ Atmosphere ที่มีแผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพสูง ประกอบไปด้วย

• แผ่นกรองหยาบ (Pre Filter) สำหรับกรองฝุ่นขนาดใหญ่ และเศษผงต่างๆ

• แผ่นกรองฝุ่น (HEPA Filter) สำหรับกรองสิ่งปนเปื้อนในอากาศได้ถึง 99.99 % และอนุภาคเล็กถึง 0.0024 ไมครอน

• แผ่นกรองกลิ่น (Odor Filter) บรรจุคาร์บอนกัมมันต์หนัก 1,020 กรัม สำหรับการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และช่วยดูดซับอนุภาคของกลิ่นต่างๆ ได้อย่างดี

แสงไฟ และระดับเสียงของเครื่องฟอกอากาศ

การวางเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนต้องคำนึงถึงแสงไฟคอนโซล และระดับเสียงของเครื่องฟอกอากาศ เพื่อไม่ให้รบกวนการนอนหลับพักผ่อน ในกรณีที่แสงสว่างมากเกินไป หรือมีเสียงดังรบกวนมากเกินไป แต่สำหรับเครื่องกรองอากาศ แอทโมสเฟียร์ สกาย และเครื่องกรองอากาศ แอทโมสเฟียร์ มินิ มีความพิเศษ คือ มีโหมดสำหรับเปิดใช้งานตอนกลางคืน (Night Mode) ซึ่งตัวระบบจะลดระดับแสงไฟของเครื่อง และทำงานแบบเงียบไร้เสียงรบกวน ทำให้หลับสนิทได้ตลอดคืน

ผ่านการรับรองมาตรฐานที่เป็นสากล

การเลือกเครื่องฟอกอากาศในห้องนอน ควรให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล ซึ่ง เครื่องกรองอากาศ Atmosphere ทั้งสองรุ่น ล้วนได้รับการรับรองมาตรฐานสากลถึง 3 แห่งด้วยกัน ได้แก่

• Allergy UK ได้รับการรับรองเรื่องของการกรองสารก่อภูมิแพ้ และสารก่อการระคายเคือง 22 หมวด และรับรองการกรองสิ่งปนเปื้อนในอากาศ ได้ 102 ชนิด โดย Allergy UK หรือสถาบัน British Allergy Foundation²

• ECARF ได้รับการรับรองเรื่องการกรองสิ่งปนเปื้อน กลิ่นไม่พึงประสงค์ รวมถึงระดับเสียง และอุณหภูมิระหว่างการใช้งาน โดยสถาบันวิจัยโรคภูมิแพ้ในยุโรป

• AHAM ได้รับการรับรองเรื่องการกรองฝุ่นละออง ควัน ละอองเกสรดอกไม้ โดยสมาคมผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

ฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย

การเลือกเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายก็จะช่วยให้มีความคุ้มค่าในการซื้อมากขึ้น โดยเฉพาะเครื่องฟอกอากาศที่มีการออกแบบการใช้งานให้มีความเรียบง่าย และสะดวกสบาย เพื่อให้ทุกคนในบ้านสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย

ดีไซน์เข้ากับการตกแต่งบ้าน

ภายในบ้าน หรือห้องต่างๆ อาจมีเครื่องฟอกอากาศได้หลายเครื่อง ดังนั้น การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีดีไซน์ที่เหมาะสมกับบ้านจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องคำนึงเป็นพิเศษ โดยเฉพาะตัวเครื่องสีขาวที่มีความมินิมอล และดูมีความทันสมัย จึงมักเป็นสิ่งที่เข้ากับการตกแต่งบ้านได้ในหลากหลายสไตล์นั่นเอง

ราคาของเครื่องปรับอากาศ

ปัจจุบันเครื่องฟอกอากาศมีราคาที่หลากหลาย การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่ดี ควรคำนึงถึงความสมเหตุสมผลระหว่างราคา มาตรฐานรับรอง รวมไปถึงประสิทธิภาพการทำงานของตัวเครื่องด้วย เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ปลอดภัย และสบายใจ

ตำแหน่งที่เหมาะสมในการวางเครื่องฟอกอากาศ

การวางเครื่องฟอกอากาศในห้องนอน โดยทั่วไปควรวางไว้ในตำแหน่งที่ห่างจากผนังทุกด้านอย่างน้อย 5 เซนติเมตร เพื่อให้อากาศสามารถไหลเวียนได้ดี ซึ่งเครื่องกรองอากาศ แอทโมสเฟียร์ สกาย และเครื่องกรองอากาศ แอทโมสเฟียร์ มินิ มีการออกแบบทางเข้า และทางออกของอากาศ โดยให้อากาศเข้าจากทางด้านหน้าของตัวเครื่อง และถ่ายอากาศสะอาดออกทางด้านบน บริเวณหลังตัวเครื่อง จึงเหมาะกับการวางให้ห่างจากผนังเล็กน้อย นอกจากนี้ เครื่องฟอกอากาศจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหากวางในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยบริเวณที่ควร และไม่ควรวางเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนมีดังนี้

วางในตำแหน่งที่อากาศถ่ายเทสะดวก

ควรวางเครื่องฟอกอากาศในตำแหน่งที่อากาศไหลเวียนถ่ายเทสะดวก ไม่อยู่ใกล้สิ่งกีดขวาง หรือเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ภายในบ้าน เพื่อให้เครื่องฟอกอากาศสามารถดูดอากาศเข้าผ่านตัวกรองอากาศภายในเครื่อง และปล่อยอากาศสะอาดกระจายออกมาได้ทั่วห้อง

วางเครื่องฟอกอากาศบนพื้นราบ

ควรวางเครื่องฟอกอากาศไว้บนพื้นราบ เพราะการทำงานของเครื่องฟอกอากาศจะปล่อยประจุไอออนลบออกมา ทำให้ฝุ่นอนุภาคขนาดเล็ก จับกลุ่มรวมตัวกันจนมีน้ำหนักมากขึ้น และร่วงลงบนพื้น ช่วยให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น

วางเครื่องฟอกอากาศให้ห่างจากเครื่องปรับอากาศ

ควรวางเครื่องฟอกอากาศให้ห่างจากเครื่องปรับอากาศ หากจะให้ดีคือควรวางไว้ตรงข้ามกับเครื่องปรับอากาศ เพื่อให้เครื่องปรับอากาศดูดเอาอากาศสะอาดจากเครื่องฟอกอากาศกลับไปเป็นอากาศเย็นที่บริสุทธิ์หมุนเวียนกลับเข้ามาภายในห้องต่อไป

ไม่ควรวางเครื่องฟอกอากาศหน้าห้องน้ำ

ไม่ควรวางเครื่องฟอกอากาศไว้หน้าห้องน้ำ เพราะห้องน้ำมีความชื้น เครื่องฟอกอากาศอาจดูดเอาความชื้นเข้ามากระจายภายในห้อง จนก่อให้เกิดเชื้อราที่ไม่ดีต่อสุขภาพได้

ไม่ควรวางเครื่องฟอกอากาศบริเวณหัวเตียง

ไม่ควรวางเครื่องฟอกอากาศไว้บริเวณหัวเตียงนอน เนื่องจากการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ คือ การดูดเอาอากาศที่มีฝุ่นละออง และเชื้อโรคเข้ามา เพื่อทำการกรองเป็นอากาศบริสุทธิ์กลับออกไป หากวางไว้บริเวณหัวเตียง อาจทำให้คุณสูดรับเอาอากาศที่ปนเปื้อนเข้าสู่ระบบหายใจในช่วงระหว่างการหลับนอนได้

การดูแลรักษาเครื่องฟอกอากาศห้องนอนเบื้องต้น

ในช่วงที่มีฝุ่นละออง และมลภาวะทางอากาศ หลายบ้านเปิดเครื่องฟอกอากาศทำงานหนักตลอดเวลา เพื่อคงประสิทธิภาพให้เครื่องฟอกอากาศใช้งานได้ยาวนาน ควรดูแลรักษาเครื่องฟอกอากาศในเบื้องต้น ดังนี้

• ทำความสะอาดแผ่นกรองภายในตัวเครื่อง โดยการใช้เครื่องดูดฝุ่น หรือแปรงปัดช่วยกำจัดฝุ่นที่เกาะบริเวณแผ่นกรอง และแผ่นคาร์บอน

• เปลี่ยนแผ่นกรอง และแผ่นคาร์บอนเมื่อหมดอายุการใช้งาน เพื่อให้เครื่องฟอกอากาศสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพ

• หมั่นทำความสะอาดตัวเครื่องภายนอก ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดทำความสะอาด โดยเฉพาะบริเวณช่องปล่อยอากาศ

• หมั่นตรวจสอบการชำรุดเสียหายของอุปกรณ์ต่างๆ ของเครื่องฟอกอากาศ

สรุป

การมีเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนจะช่วยทำให้ผู้อยู่อาศัยได้หายใจในอากาศสะอาดตลอดเวลาของการพักผ่อน ส่งผลให้สุขภาพดีขึ้น ซึ่งการเลือกเครื่องฟอกอากาศต้องพิจารณาหลายอย่างตามความเหมาะสม และประสิทธิภาพของการทำงาน ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ เครื่องกรองอากาศ Atmosphere มีคุณสมบัติที่ครบถ้วนทั้งประสิทธิภาพในการกรองอากาศ ความสวยงามของดีไซน์ และที่สำคัญคือการได้รับการรับรองจากมาตรฐานสากลที่เกี่ยวกับการกรองสิ่งปนเปื้อนในอากาศ เพื่อให้สามารถกรองได้ตั้งแต่ไรฝุ่น ฝุ่นละอองขนาดเล็ก และสารก่อภูมิแพ้นั่นเอง

References

1. ไทยรัฐออนไลน์. 15 เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี? กรองฝุ่น PM2.5 คุ้มค่า ราคาเข้าถึงง่าย. thairath.co.th. Retrieved 22 August 2023.

2. AllergyUK. Your quick guide to: Indoor Air Quality. allergyuk.org. Retrieved 20 July 2023.

---

---