24 JAN 2025 บทความผลิตภัณฑ์ 4 นาทีในการอ่าน 316 VIEWS

3 ฮีโร่ที่มีความหมายทางใจ | นิตยสารอะชีฟ ฉบับกุมภาพันธ์ 2568

Health_2025_feb_38_1_h.png

ระบบหัวใจและหลอดเลือดเปรียบเสมือนเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนชีวิตเพื่อนำเลือดและสารต่างๆ ไปยังอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ดังนั้น ถ้าปล่อยให้หัวใจและหลอดเลือดเสื่อมสภาพก็จะส่งผลต่อสุขภาพของเราด้วย


ระบบหัวใจและหลอดเลือด

(Cardiovascular Systems; CVS)

Health_2025_feb_38_1_p1.png

เป็นระบบที่นําสารต่างๆ ไปยังเซลล์ทั่วร่างกาย เช่น สารอาหาร แก๊ส แร่ธาตุ ฮอร์โมน และรับของเสียส่งออกนอกร่างกายโดยลําเลียงไปตามเส้นเลือด ซึ่งระบบนี้ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ได้แก่

Health_2025_feb_38_1_bar1.png

ทำหน้าที่สูบฉีดเลือด หล่อเลี้ยงเซลล์ เนื้อเยื่อ อวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย

Health_2025_feb_38_1_bar2.png

ทําหน้าที่ลําเลียงเลือดจากหัวใจและสารต่างๆ ไปยังอวัยวะส่วนต่างๆ และเป็นเส้นทางให้เลือดจากอวัยวะทั่วร่างกายกลับเข้าสู่หัวใจ


หัวใจและหลอดเลือดของเราเปรียบเสมือนเครื่องยนต์ของชีวิตที่ทำงานหนักตลอดเวลา ถ้าหากเราดูแลไม่ดีจะก่อให้เกิดการเสื่อมสภาพ และนำไปสู่โรคหัวใจและหลอดเลือดในที่สุด

Health_2025_feb_38_2_heart.png


Health_2025_feb_38_2_h.png

อาจเป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด

Health_2025_feb_38_2_p1.png
Health_2025_feb_38_2_s1.png

กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-Communicable Diseases; NCDs)
เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตมากเป็น
อันดับ 1 ของคนไทย
ที่มา: กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข 2565

Health_2025_feb_38_2_s2.png

โรคหัวใจและหลอดเลือด
เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตมากที่สุดเป็น
อันดับ 2 ของคนไทย ในกลุ่ม NCDs
ที่มา: กองโรคไม่ติดต่อ กองควบคุมโรค 2566

Health_2025_feb_38_2_s3.png

คนไทยเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือด
มากถึง 70,000 รายต่อปี เฉลี่ยชั่วโมงละ 8 คน
และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี
ที่มา: กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค 2566

Health_2025_feb_38_2_s4.png

ปัญหาสุขภาพที่ผู้คนกังวลเป็น
อันดับ 2 ของคนไทย
“สุขภาพหัวใจและหลอดเลือด”
ที่มา: HealthFocus International 2567


Health_2025_feb_38_3_h.png

ปัจจัยเสี่ยงนำไปสู่โรคหัวใจและหลอดเลือด

Health_2025_feb_38_3_p1.png

Health_2025_feb_38_3_p2.png

ภาวะที่นำไปสู่โรคหัวใจและหลอดเลือด

คือสถานะหรือสภาพของร่างกายหรือจิตใจที่ผิดปกติ อาจเป็นภาวะชั่วคราวหรือเรื้อรัง ซึ่งเกิดจากปัจจัยเสี่ยงและส่งผลทำให้เกิดโรคได้

Health_2025_feb_38_3_p3.png

1  คือภาวะที่หัวใจทำงานไม่ปกติ สาเหตุหลักคือความผิดปกติของการผลิตพลังงานของเซลล์ (Bioenergetic Dysfunction) เนื่องจากเซลล์เสื่อมสภาพ (Senescent Cell) ซึ่งอาจทำให้การบีบตัวของหัวใจลดลงหรือส่งผลต่อระบบไหลเวียนเลือดโดยรวม

2  คือภาวะที่ระดับไขมันในเลือดชนิดไม่ดีสูงเกินไป เมื่อมีไขมันในเลือดสะสมมากเกินไปจะไปเกาะตามผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและตีบแคบ ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงหัวใจและอวัยวะต่างๆไม่สะดวก อาจทำให้หัวใจขาดเลือด หรือหลอดเลือดตีบ แตก ตันได้

3  คือภาวะแรงดันของเลือดที่ไหลเวียนในหลอดเลือดสูงกว่าปกติอย่างต่อเนื่อง เกิดจากหลอดเลือดไม่ยืดหยุ่นหรือมีการเกิดคราบพลัก (Plaque) ก่อให้เกิดการแตกหรือตีบของหลอดเลือดและหัวใจวายได้

ภาวะเหล่านี้มักก่อให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เมื่อเกิดรวมกันจะเร่งการเกิดโรคและความรุนแรงของโรคหัวใจและหลอดเลือดมากขึ้น

กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด

คือกลุ่มของโรคที่เกี่ยวข้องกับการทำงานผิดปกติของหัวใจและหลอดเลือดทั่วร่างกาย เช่น

Health_2025_feb_38_3_i1.png

โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)

Health_2025_feb_38_3_i2.png

โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Disease, CAD)

Health_2025_feb_38_3_i3.png

โรคหัวใจขาดเลือด (Myocardial Ischemia)

Health_2025_feb_38_3_i4.png

โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Cardiac Arrhythmia)


Health_2025_feb_38_4_h.png

กลไกของสารอาหารที่มีผลต่อหัวใจ
และหลอดเลือด

Health_2025_feb_38_4_p1.png
1 โคเอนไซม์คิวเท็น (Coenzyme Q10;CoQ10)
  • ช่วยผลิตพลังงานแก่เซลล์หัวใจ ส่งเสริมการบีบตัวและการทำงานโดยรวมของหัวใจ
  • ปรับปรุงค่าพารามิเตอร์ต่างๆ เกี่ยวกับการบีบตัวหรือการสูบฉีดของหัวใจ เช่น อัตราการขับเลือด และปริมาณเลือดที่สูบฉีดออกจากหัวใจ
Health_2025_feb_38_4_b1.png

2 โอเมก้า 3 (Omega 3)
  • เพิ่มการออกซิเดชันของกรดไขมันในตับ และช่วยลดปริมาณไขมันในหลอดเลือด
  • กระตุ้นการสลายไตรกลีเซอไรด์และการกำจัดไขมันไม่ดีชนิด VLDL (Very Low-density Lipoprotein)
  • ช่วยเพิ่มไขมันดี HDL (High Density Lipoprotein) และลดการก่อตัวของคราบพลัก
  • ลดการอักเสบซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง ซึ่งเป็นภาวะที่สัมพันธ์กับระดับไขมันในเลือดสูง
Health_2025_feb_38_4_b3.png

3 อัลลิซิน (Allicin)
  • เพิ่มการขยายหลอดเลือดผ่านการเพิ่มการผลิตไนตริกออกไซด์
  • ลดการเกิดออกซิเดชันและส่งเสริมการทำงานของเซลล์บุผนังหลอดเลือด
  • ควบคุมระบบ Renin-Angiotensin-Aldosterone System (RAAS) ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยควบคุมสมดุลของเหลวรวมถึงความดันโลหิต
  • เพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือดที่ส่งผลต่อความดันโลหิต
Health_2025_feb_38_4_b2.png

6 Lifestyle Medicine
ที่มีผลต่อหัวใจและหลอดเลือด

Health_2025_feb_38_4_p2.png


Health_2025_feb_38_5_h.png

โคเอนไซม์คิวเท็น (Coenzyme Q10; CoQ10)

  • สารสกัดโคเอนไซม์คิวเท็นควรอยู่ในฟอร์มยูบิควิโนน (Ubiquinone) เนื่องจากเป็นฟอร์มที่เสถียรกว่ายูนิควินอล (Ubiquinol) ซึ่งเป็นฟอร์มที่ไวต่อการเกิดปฏิกิริยาและไม่มีความคงตัว
  • สารสกัดโคเอนไซม์คิวเท็นเป็นสารที่ละลายในสารไม่มีขั้ว จึงควรมีสารไม่มีขั้วเป็นส่วนประกอบ เช่น น้ำมันรำข้าว เพื่อช่วยส่งเสริมการดูดซึมโคเอนไซม์คิวเท็นในลำไส้เล็ก
  • สารสกัดโคเอนไซม์คิวเท็นเป็นสารที่ละลายในสารไม่มีขั้ว จึงควรรับประทานพร้อมอาหารหรือพร้อมสารไม่มีขั้ว เช่น น้ำมันรำข้าว เพื่อช่วยส่งเสริมการดูดซึมในลำไส้เล็ก
  • การเลือกรับประทานสารสกัดที่ดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ควรเลือกสารสกัดที่มีโคเอนไซม์คิวเท็นและสารตัวอื่น เช่น แอล-คาร์นิทีน (L-Carnitine) และทอรีน (Taurine) เพื่อเป็นการดูแลสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือดแบบองค์รวม มากกว่าจะอาศัยสารสกัดจากโคเอนไซม์คิวเท็นเพียงชนิดเดียว
  • มีงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า หากรับประทานสารสกัดโคเอนไซม์คิวเท็นในปริมาณที่เหมาะสมจะมีส่วนช่วยป้องกันภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้

Health_2025_feb_38_5_p1.png

โอเมก้า 3 (Omega 3)

  • โอเมก้า 3 ที่ครบถ้วน ควรประกอบด้วย EPA, DHA และ ALA ซึ่งเป็นแหล่งของกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายผลิตเองไม่ได้ การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบครบถ้วนและรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้รับประโยชน์จากโอเมก้า 3 อย่างเต็มที่
  • องค์กรสุขภาพส่วนใหญ่แนะนำให้ผู้ใหญ่รับประทาน EPA และ DHA รวมกันประมาณ 250 - 500 มิลลิกรัมต่อวัน
  • น้ำมันปลาโดยทั่วไปนอกจากจะมี DHA และ EPA แล้ว ยังประกอบด้วยน้ำมันส่วนเกิน ซึ่งหากมีปริมาณมากเกินไปอาจรบกวนการดูดซึมของร่างกาย ดังนั้น การเลือกน้ำมันปลาที่มีน้ำมันส่วนเกินน้อยจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารสำคัญอย่าง DHA และ EPA ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ควรมีเทคโนโลยี SEDDS (Self-Emulsifying Drug Delivery System) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมน้ำมันปลาได้ถึง 300% อีกทั้งยังช่วยลดปัญหากลิ่นเรอเหม็นคาวปลา

Health_2025_feb_38_5_p2.png

อัลลิซิน (Allicin)

  • สารอัลลิซินพบมากในกระเทียม จึงควรหากระเทียมที่มีคุณภาพและปลอดภัย
  • กระเทียมเป็นพืชที่มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ กลิ่นรุนแรงส่งผลทำให้รับประทานได้ยาก จึงแนะนำให้เลือกกระเทียมสกัดที่มีการผสมเปปเปอร์มินต์
  • กระเทียมสกัดควรมีชะเอมเป็นส่วนประกอบเพื่อลดอาการระคายเคืองในกระเพาะอาหารหลังรับประทาน
  • มีเทคโนโลยีการบ่มกระเทียมโดยการควบคุมอุณหภูมิและความชื้น เพื่อให้ได้ไฟโตนิวเทรียนท์ อัลลิอิน (Alliin) เพิ่มมากขึ้น

Health_2025_feb_38_6_p1.png

เอกสารอ้างอิง
ClickICON.png


แบบทดสอบสมรรถภาพ

Heart with Solid Fill เครื่องยนต์ของคุณ
แบบทดสอบสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
(รูปแบบ PDF)

ClickICON.png

แบบทดสอบสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
(รูปแบบ EXCEL)
ClickICON.png
Health_2025_feb_38_6_footer.png