ตับเป็นอวัยวะภายในที่ใหญ่ที่สุดและเป็นอวัยวะสำคัญมากที่ทำงานหนักในร่างกาย แต่ในความเป็นจริงการดูแลสุขภาพตับมักถูกละเลยจนอาจเป็นภัยเงียบที่ทำร้ายคุณได้
ตับทำหน้าที่หลัก 3 ประการ
ทำไมต้องใส่ใจสุขภาพตับ
โรคตับส่วนใหญ่มักจะไม่แสดงอาการผิดปกติในระยะเริ่มต้น แต่การทำงานของตับยังคงแย่ลงเรื่อยๆ จนเมื่อร่างกายแสดงอาการผิดปกติก็มักพบว่าเป็นโรคตับขั้นรุนแรงแล้ว
ที่มา: โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
ความเสี่ยงที่ทำให้ตับเสื่อมสภาพ
อาหาร:
อาหารไขมันสูงและอาหารรสหวานซึ่งน้ำตาลส่วนเกินจะเปลี่ยนไปเป็นไขมัน
สภาพแวดล้อม:
การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษและควันบุหรี่ ทำให้ตับทำงานหนักในการกำจัดสารพิษ
ไลฟ์สไตล์:
ไม่ออกกำลังกาย การออกกำลังกายอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานได้มากขึ้น
โรคตับ ภัยเงียบที่ไม่รู้ตัว
ไขมันพอกตับ (Fatty Liver) มักจะไม่แสดงอาการใดๆ
แต่เมื่อไขมันถูกสะสมมากขึ้นทำให้ตับคั่งไขมันและเริ่มมีภาวะอักเสบ (Hepatitis Inflammation) และพังผืดในตับ (Fibrosis)
ในระยะนี้หากมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็สามารถกลับไปสู่ตับที่มีสุขภาพดีได้
แต่หากยังละเลยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจะกลายเป็นตับแข็ง (Cirrhosis) และมะเร็งตับ (Liver Cancer) ในที่สุด ทั้งนี้ อาการหรือสัญญาณต่างๆ จะเริ่มแสดงในระยะที่เป็นตับแข็งแล้ว
3 ปัญหาใหญ่
1 เกิดการสะสมของไขมัน:
เกิดจากพฤติกรรมการกินหรือโรคบางชนิด เมื่อไขมันสะสมที่ตับมากขึ้นจะรบกวนการทำงานของเส้นทางล้างสารพิษในตับ
2 ตับกำจัดสารพิษได้น้อยลง:
การทำงานของตับที่ถูกขัดขวางจากไขมันสะสม ทำให้สารพิษในร่างกายเพิ่มขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดภาวะพังผืดในตับ
3 เกิดการอักเสบและโรคแทรกซ้อน:
ภาวะพังผืดในตับทำให้การทำงานของตับแย่ลง นำไปสู่ปัญหาใหญ่ทั้งการสะสมไขมันเพิ่มขึ้นและการกำจัดสารพิษที่แย่ลง
แต่สารอาหาร ได้แก่ สารสกัดจากบรอกโคลี ชะเอมเทศ เมล็ดองุ่น เลซิติน วิตามินอี และวิตามินบีรวม ช่วยดูแลทั้ง 3 ปัญหาข้างต้นได้
3 สารอาหารสำคัญดูแลตับ
1 สารสกัดจากบรอกโคลี ชะเอมเทศ และเมล็ดองุ่น | 2 เลซิตินและวิตามินอี | 3 วิตามินบีรวม 8 ชนิด |
กลูโคราเฟนจากบรอกโคลี กรดกลีเซอไรซิกจากชะเอมเทศ และโปรไซยานิดินจากเมล็ดองุ่น ช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ล้างสารพิษในตับ ทำให้ขับสารพิษได้ดีขึ้น | ตัวช่วยลดการสะสมไขมันในตับ ลดไตรกลีเซอไรด์ และเพิ่มไขมันดี (HDL) พร้อมช่วยสร้างน้ำดีเพื่อย่อยไขมัน | ช่วยฟื้นฟูเซลล์ตับ เพิ่มการดูดซึมสารอาหาร และช่วยกระบวนการทำงานต่างๆ ของตับให้ดีขึ้น |
นอกจากจะมีตัวช่วยดีๆ จาก 3 สารอาหารสำคัญข้างต้นแล้ว อย่าลืมดูแลตับด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตตามแนวทาง 6 Lifestyle Medicine ด้วยการกินอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น ลดการบริโภคไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัว หลีกเลี่ยงการบริโภคคาร์โบไฮเดรตขัดสี งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งมีกิจกรรมทางกายที่เหมาะสม ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ นอนหลับให้เพียงพออย่างมีคุณภาพ ควบคุมความเครียด จัดการด้านอารมณ์ หลีกเลี่ยงสารหรือวัตถุที่เป็นอันตราย และมีปฏิสัมพันธ์กับสังคม เป็นต้น