“น้ำสะอาด” จำเป็นต่อการลดน้ำหนัก | นิตยสารอะชีฟ ฉบับสิงหาคม 2566
“น้ำสะอาด” จำเป็นต่อการลดน้ำหนัก
นายแพทย์สมบูรณ์ รุ่งพรชัย แพทย์ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย
สถานการณ์น้ำสะอาดในบ้าน เราไม่ได้ต่างกับสภาพอากาศฝุ่นพิษเพียงแต่ไม่แสดงอาการออกมาทันที
รายงานสารปนเปื้อนในน้ำประเทศไทยในปี 2016
คนไทยกว่า 43 ล้านคน ดื่มน้ำปนเปื้อน ที่พบบ่อยคือ สารปรอท ตะกั่ว แคดเมียม และสนิม
สารปนเปื้อนในน้ำ
ในแหล่งน้ำจากแหล่งใกล้เคียงอุตสาหกรรมและพื้นที่การเกษตรยังพบสารเคมี ยาฆ่าแมลง ส่วนในเมืองก็พบสารประกอบทางเภสัชกรรมสูงได้ สารเหล่านี้คงเหลืออยู่แม้ต้มน้ำดื่มแล้วก็ตาม น้ำดื่มในขวดพลาสติกแข็งที่มีโพลีคาร์บอเนต หากใส่น้ำร้อน หรือขวดชำรุดก็อาจมีสารปนเปื้อนได้เช่นกัน
สารปนเปื้อนเหล่านี้แม้มีในปริมาณน้อยไม่ส่งผลต่อสุขภาพในทันที แต่จะสะสมทีละน้อย และส่งผลกระทบต่อการเผาผลาญในร่างกายอย่างช้าๆ แม้ผลในร่างกายจะไม่ถึงระดับที่เป็นพิษ แต่ในระดับน้อยๆ นี้จะก่อให้เกิดการอักเสบสะสมในร่างกายทีละน้อย เป็นสารก่อกวนฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้การเผาผลาญในร่างกายลดลง ไขมันสะสมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีพันธุกรรม
ในการขจัดสารพิษออกจากร่างกายช้า
คนที่ออกกำลังกายหรือลดน้ำหนัก
เป็นผู้ที่จำเป็นต้องดื่มน้ำมากกว่าคนทั่วไปเนื่องจากการสูญเสียน้ำพบว่า ช่วงลดน้ำหนักเร็วๆ ร่างกายอาจจำเป็นต้องใช้น้ำ และเกลือแร่เพิ่มขึ้น ยิ่งอากาศร้อนในประเทศไทยมากขึ้น ยิ่งทำให้ต้องดื่มน้ำมากยิ่งขึ้น คนส่วนใหญ่พอลดน้ำหนัก คิดถึงแต่การควบคุมอาหาร โดยเข้าใจว่าดื่มน้ำเท่าเดิมก็เพียงพอ เป็นความเข้าใจผิดที่ทำให้น้ำหนักลดได้ช้าลงการดึงไขมันออกจากร่างกาย การเผาผลาญแคลอรีเพิ่มขึ้น ล้วนแล้วแต่ใช้น้ำเพิ่มขึ้นทั้งสิ้น หากขาดน้ำก็จะกระทบทำให้การลดน้ำหนักช้าได้
เกลือแร่
สำคัญต่อการลดน้ำหนัก
ตัวอย่างเช่น แคลเซียม แมกนีเซียม และฟลูออไรด์
จำเป็นในการรักษามวลกระดูก กล้ามเนื้อ ในระหว่างการลดน้ำหนัก เมื่อลดน้ำหนัก ร่างกายมีสิทธิ์ที่จะลดไขมันร่วมไปกับการสูญเสียมวลกระดูกและกล้ามเนื้อไปด้วยหากขาดน้ำ เกลือแร่จึงสำคัญเพราะจะก่อให้เกิดภาวะโย-โย่หลังการลดน้ำหนัก หรือไม่สามารถรักษาน้ำหนักที่ลดลงแล้วได้ต่อเนื่อง แม้เกลือแร่ไม่ใช่ตัวหลักในการลดน้ำหนักแต่เป็นตัวสนับสนุนการลดและควบคุมน้ำหนักที่ลดให้คงที่ยาวๆ
การดื่มน้ำในช่วงลดน้ำหนัก
เป็นช่วงเริ่มควบคุมแคลอรี่ลดลง กระตุ้นร่างกายให้ใช้ไขมันเป็นพลังงานแทน และเปลี่ยนแหล่งพลังงานมาเผาผลาญไขมัน ดังนั้น ต้องใช้น้ำเพิ่มขึ้นในการเผาผลาญและกำจัดของเสียจากการเผาผลาญออกจากร่างกาย ควรตั้งใจดื่มน้ำเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า ของช่วงปกติ โดยแบ่งดื่มระหว่างวันเพื่อการเผาผลาญต่อเนื่องตลอดวัน
เป็นช่วงที่ต้องออกกำลังกายเพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อและกระดูกไว้ สำหรับร่างกายที่แข็งแรง ดังนั้น การดื่มน้ำจึงควรปรับเพิ่มตามกิจกรรมในวันนั้นๆ เช่น วันออกกำลังกายอาจดื่มน้ำเพิ่มขึ้น 1.5 ถึง 2 เท่า โดยเน้นช่วงก่อนระหว่างและหลังออกกำลังกายเป็นสำคัญ และดื่มน้ำปกติ 8 - 10 แก้วต่อวันในวันที่ไม่มีกิจกรรมมากมาย
 |
สำหรับผู้ที่มีแก๊สในท้อง ท้องอืดง่าย ควรดื่มน้ำเล็กน้อยในระหว่างรับประทานอาหาร และค่อยดื่มเพิ่มขึ้นในระหว่างมื้อแทน และสำหรับผู้ที่ลดน้ำหนักแล้วมีอาการท้องผูก นี่เป็นสัญญาณว่าดื่มน้ำไม่เพียงพอ จึงควรดื่มน้ำเพิ่มขึ้นให้เพียงพอ |
 |
น้ำดื่มสะอาด ไม่ใช่ตัวหลักในการลดน้ำหนัก แต่มีความสำคัญต่อการลดน้ำหนัก ทั้งในช่วงลดน้ำหนักและรักษาน้ำหนักให้คงที่ การดื่มน้ำที่เพียงพอและพอดีกับความต้องการจะช่วยให้การเผาผลาญดีขึ้น เป็นการส่งเสริมการลดน้ำหนักที่ดีต่อสุขภาพ เรียกได้ว่าน้ำดื่มสะอาดเป็นปัจจัยสำคัญต่อการลดน้ำหนักได้สำเร็จในระยะยาวเช่นกัน |
ข้อมูลอ้างอิง +
