27 DEC 2024 บทความผลิตภัณฑ์ 5 นาทีในการอ่าน 75 VIEWS

ผมร่วงเยอะมาก! แก้ผมร่วงก่อนสายเกินไป วิธีง่ายๆ ที่คุณทำเองได้ที่บ้าน

Key Takeaway

  • ผมร่วงวันละ 50 - 100 เส้นถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากเรามีผมบนศีรษะถึง 100,000 เส้น และมีผมใหม่ขึ้นมาทดแทนตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่หากผมร่วงเยอะมากกว่านี้อาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติ
  • สาเหตุของผมร่วงที่ผิดปกติมีได้หลายปัจจัย ทั้งจากพันธุกรรม ฮอร์โมน ความเครียด การใช้สารเคมี และโภชนาการที่ไม่เหมาะสม 
  • การรักษาผมร่วงมีหลายวิธี ตั้งแต่การใช้ Hair Tonic การใช้ยา การปลูกผม ไปจนถึงเทคโนโลยีทันสมัยอย่าง PRP สเต็มเซลล์ และเลเซอร์ ซึ่งแต่ละวิธีเหมาะกับปัญหาผมร่วงที่แตกต่างกัน
  • การดูแลเส้นผมและหนังศีรษะในชีวิตประจำวันมีความสำคัญ ทั้งการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม การกินอาหารที่มีประโยชน์ การหลีกเลี่ยงการทำร้ายเส้นผม และการจัดการความเครียด จะช่วยป้องกันและลดปัญหาผมร่วงได้

ผมร่วงเยอะมาก อาจเกิดจากพันธุกรรม ฮอร์โมน ความเครียด สามารถรักษาได้ด้วยยา การปลูกผม หรือหัตถการอื่นๆ พร้อมดูแลด้วยการใช้แชมพูบำรุงและกินอาหารมีประโยชน์

ผมร่วงแบบไหนที่เรียกว่า ร่วงผิดปกติ

อาการของผมร่วงนั้นมีความหลากหลาย ตั้งแต่ผมร่วงเล็กน้อยจนถึงผมร่วงเป็นหย่อมใหญ่ เราสามารถสังเกตเห็นปัญหาผมร่วงว่าเยอะมากได้จากการที่ผมหลุดร่วงเป็นจำนวนมากหลังสระผม หรือพบเส้นผมติดอยู่บนแปรง หวี หรือหมอนมากผิดปกติ 

นอกจากนี้ อาการผมบางหรือศีรษะล้านเป็นหย่อมๆ ก็เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาผมร่วงเช่นกัน หากคุณสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงและรับคำแนะนำในการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

อย่างไรก็ตาม ผมร่วงเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับทุกคน โดยเฉลี่ยแล้ว เราจะสูญเสียเส้นผมไปประมาณ 50 - 100 เส้นต่อวัน ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่น้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนเส้นผมทั้งหมดบนศีรษะที่มีมากถึง 100,000 เส้น ทำให้เราแทบสังเกตไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงใดๆ เพราะมีเส้นผมใหม่งอกขึ้นมาทดแทนอยู่ตลอดเวลา1 

ผมร่วงเยอะมาก เกิดจากสาเหตุอะไร

ผมร่วงเป็นปัญหาที่หลายคนพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ซึ่งสาเหตุของผมร่วงเกิดจากทั้งปัจจัยภายในร่างกายและภายนอก ดังนี้

  • หนังศีรษะไม่สมดุล เนื่องจากความแห้งหรือความมันที่มากเกินไปบนหนังศีรษะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเส้นผมและหนังศีรษะโดยตรง
  • พันธุกรรม เป็นสาเหตุหลักที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้ชายที่มักมีประวัติครอบครัวที่มีปัญหาผมร่วง นอกจากพันธุกรรมแล้ว ปัจจัยอื่นๆ เช่น ความเครียด มลภาวะ ก็อาจกระตุ้นให้ผมร่วงได้เร็วขึ้น โดยเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเพศชายชื่อ ‘แอนโดรเจน’ ที่ควบคุมวงจรการเจริญเติบโตของเส้นผม
  • ภาวะเจ็บป่วยและการผ่าตัด โรคบางชนิด เช่น โรคต่อมไทรอยด์ การติดเชื้อที่หนังศีรษะ หรือการผ่าตัดใหญ่ อาจทำให้ผมร่วงชั่วคราวได้
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ในช่วงตั้งครรภ์ คลอดบุตร ให้นมบุตร หรือช่วงวัยหมดประจำเดือน ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง ทำให้ผมร่วงได้
  • ยาบางชนิด ยาที่ใช้รักษาโรคต่างๆ เช่น มะเร็ง ความดันโลหิตสูง หรือโรคข้ออักเสบ อาจมีผลข้างเคียงทำให้ผมร่วง
  • การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว การลดน้ำหนักมากเกินไปในระยะเวลาอันสั้น อาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร ส่งผลให้ผมร่วงได้
  • ภาวะขาดสารอาหาร การขาดโปรตีน ธาตุเหล็ก และวิตามินบางชนิด เช่น ไบโอติน อาจทำให้ผมบางและร่วงได้
  • ความเครียด ความเครียดเรื้อรังหรือเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ อาจทำให้ผมเข้าสู่ช่วงพักตัว ทำให้ผมร่วงชั่วคราวได้
  • โรคผิวหนัง เช่น ไลเคนพลานัส หรือโรคลูปัส อาจทำให้เกิดแผลเป็นบนหนังศีรษะและผมร่วงถาวรได้1

7 วิธีแก้ปัญหาผมร่วงมาก มีอะไรบ้าง

7 วิธีแก้ปัญหาผมร่วงมาก มีอะไรบ้าง

วิธีแก้ผมร่วงมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุของการร่วงและความรุนแรงของอาการ2 ดังนี้

1. ใช้ Hair Tonic

Hair Tonic คือผลิตภัณฑ์บำรุงหนังศีรษะและเส้นผมที่ช่วยแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง และปัญหาหนังศีรษะต่างๆ ได้อย่างตรงจุด ดังนี้

  • ช่วยดูแลหนังศีรษะให้แข็งแรงขึ้น ด้วยการสร้างเกราะป้องกันความชื้นที่แข็งแรง ซึ่งจะช่วยให้รากผมและรูขุมขนได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ ทำให้หนังศีรษะของคุณมีสุขภาพดีขึ้น 
  • ช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงขึ้น ลดปัญหาผมแตกหักลงถึง 62% ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ผมหลุดร่วงจากการแตกหัก ทำให้ผมของคุณดูหนาขึ้นและมีน้ำหนักมากขึ้น
  • ลดปัญหาผมหลุดร่วงได้ถึง 42% ภายในระยะเวลาเพียง 4 สัปดาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมเปราะบาง เส้นเล็ก หรือผมบาง 

2. การใช้ยา 

ยาไมน็อกซิดิล (Minoxidil) และยาฟีนาสเตอไรด์ (Finasteride) เป็นยาที่ใช้ในการรักษาปัญหาผมร่วง ผมบาง โดยมีกลไกการทำงานที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • ยาไมน็อกซิดิลมีทั้งชนิดทาและชนิดกิน ช่วยขยายหลอดเลือดนำสารอาหารไปเลี้ยงรากผม ทำให้ผมแข็งแรงและงอกใหม่ได้ดีขึ้น เหมาะสำหรับทั้งเพศชายและเพศหญิง 
  • ยาฟีนาสเตอไรด์เป็นยาชนิดกินสำหรับเพศชายเท่านั้น โดยออกฤทธิ์ยับยั้งฮอร์โมน DHT ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาผมร่วงจากกรรมพันธุ์ ช่วยให้ผมงอกใหม่ได้ดีขึ้น 

ทั้งนี้ การใช้ยาทั้งสองชนิดควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้

3. การปลูกผม 

การปลูกผมเป็นทางเลือกในการรักษาปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้านในผู้ที่มีกรรมพันธุ์ โดยแพทย์จะย้ายรากผมจากบริเวณที่ผมหนาแน่น เช่น ท้ายทอย มาปลูกในบริเวณที่ผมบางหรือศีรษะล้าน ทำให้ได้ผมใหม่ที่ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้ยาวนาน

4. การทำ PRP

แพทย์จะนำเลือดของผู้ป่วยเองมาปั่นแยกส่วนที่อุดมไปด้วยเกล็ดเลือดเข้มข้น จากนั้นจึงนำไปฉีดเข้าสู่หนังศีรษะเพื่อกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผม ทำให้ผมงอกใหม่แข็งแรงและหนาขึ้น PRP จึงเป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการชะลอการหลุดร่วงของเส้นผมและฟื้นฟูหนังศีรษะให้กลับมาสุขภาพดี

5. การฉีดสเต็มเซลล์ผม 

การฉีดสเต็มเซลล์ผม (Regenera Activa) เป็นนวัตกรรมการรักษาที่นำเซลล์ต้นกำเนิดจากรากผมของผู้ป่วยเองมาสกัดและกระตุ้นให้เพิ่มจำนวนขึ้น ก่อนนำไปฉีดกลับเข้าสู่หนังศีรษะ วิธีนี้ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่ ทำให้ผมดกดำขึ้น และยังช่วยชะลอการหลุดร่วงของเส้นผมได้อีกด้วย

6. การทำเลเซอร์กระตุ้นรากผม 

การทำเลเซอร์กระตุ้นรากผม (Fractional Laser) คือการใช้พลังงานแสงเลเซอร์ระดับต่ำยิงลงบนหนังศีรษะเพื่อกระตุ้นเซลล์รากผมให้ทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้ผมงอกใหม่แข็งแรง ดกดำ และชะลอการหลุดร่วงของเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

7. การปลูกผมด้วยเลเซอร์ 

การปลูกผมด้วยเลเซอร์พลังงานต่ำ (Low Level Laser Therapy: LLLT) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้แสงเลเซอร์ที่มีพลังงานต่ำส่องลงบนหนังศีรษะเพื่อกระตุ้นเซลล์รากผมให้ทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้ผมร่วงน้อยลง ผมใหม่งอกเร็วขึ้น มีความแข็งแรง และหนาขึ้น วิธีนี้เป็นทางเลือกในการรักษาปัญหาผมร่วงเยอะมากที่ไม่ต้องใช้ยาหรือการผ่าตัด และมีความปลอดภัยสูง

การดูแลเส้นผมและฟื้นบำรุงหนังศีรษะ

การดูแลเส้นผมและฟื้นบำรุงหนังศีรษะ

การแก้ปัญหาผมร่วงและการฟื้นฟูสุขภาพเส้นผมสามารถทำได้หลายวิธี โดยเริ่มต้นจากการรักษาสุขภาพหนังศีรษะให้แข็งแรง ควบคู่ไปกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่เหมาะสม ดังนี้

ไดร์ผมหลังสระทุกครั้ง

การไดร์ผมหลังสระเป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลสุขภาพหนังศีรษะ การเป่าผมให้แห้งสนิทช่วยลดความชื้นส่วนเกินซึ่งเป็นสิ่งที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียที่อาจก่อให้เกิดปัญหาหนังศีรษะ เช่น รังแค การคัน และการอักเสบ เมื่อหนังศีรษะมีความชื้นสะสมมากเกินไป จะส่งผลให้สภาพแวดล้อมเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่เป็นอันตราย ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาผมร่วงในระยะยาว 

นอกจากนี้ การรักษาหนังศีรษะให้แห้งสะอาดยังช่วยรักษาสมดุลของน้ำมันธรรมชาติบนหนังศีรษะ ทำให้เส้นผมแข็งแรงและมีสุขภาพดี

ปรับสมดุลหนังศีรษะ

ใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยปรับสมดุลหนังศีรษะที่มีส่วนผสมจากสารสกัดน้ำจากเมล็ดทานตะวัน โปรตีน และพรีไบโอติก จะช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรง พร้อมเทคโนโลยีต่างๆ ดังนี้

  • ไฟโตครีเอทีน เป็นสารสกัดจากพืชที่มีคุณสมบัติพิเศษในการบำรุงหนังศีรษะให้กลับมาสมดุล คล้ายกับการใช้สกินแคร์บำรุงผิวหน้า
  • ไฟโตไลโปโซม หนังศีรษะก็ต้องการความเอาใจใส่ไม่แพ้ผิวหน้า ซึ่งไฟโตไลโปโซมจะนำพาส่วนผสมบำรุงจากธรรมชาติในรูปแบบของไลโปโซมขนาดเล็ก ซึมลึกเข้าสู่หนังศีรษะได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมือนการมอบความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า ด้วยส่วนผสมที่ละลายได้ทั้งน้ำและน้ำมัน ช่วยบำรุงหนังศีรษะอย่างล้ำลึก เปรียบเสมือนการทำสปาให้หนังศีรษะ 

หลังสระผม ให้หยดผลิตภัณฑ์ลงบนหนังศีรษะชุ่มๆ หยดต่อหยด เพื่อการกระจายตัวที่ทั่วถึง จากนั้นนวดเบาๆ ให้ทั่วหนังศีรษะ คล้ายการนวดสปา เพื่อให้สารบำรุงซึมลึกเข้าสู่หนังศีรษะอย่างเต็มที่ ไม่ต้องล้างออก จากนั้นเป่าโคนผมให้แห้งตามปกติ 

ใช้แชมพูสูตรบำรุงหนังศีรษะโดยเฉพาะ

การใช้แชมพูบำรุงหนังศีรษะโดยเฉพาะเป็นทางออกที่ดีในการฟื้นฟูผมแห้งเสียและขาดความชุ่มชื้น ทั้งยังเป็นการเพิ่มปริมาตรให้เส้นผมดูหนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

ผลลัพธ์ที่ได้จากการวิจัยทางคลินิกยืนยันว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีไฟโตจูฟ ไฟโตครีเอทีน และไลโปโซม พรีไบโอติก เมล็ดทานตะวัน โสมไซบีเรีย สามารถเพิ่มปริมาตรได้ถึง 2 เท่า และคงอยู่ได้นานถึง 8 ชั่วโมง 

นอกจากนี้ ยังช่วยฟื้นฟูเส้นผมที่เสียหาย เพิ่มความหนาขึ้น 158% และเสริมสร้างความแข็งแรง ลดการขาดหลุดร่วงได้ถึง 55% ช่วยรักษาผมได้มากถึง 1,400 เส้นต่อเดือน สูตรที่อ่อนโยนต่อหนังศีรษะ ช่วยทำความสะอาดอย่างล้ำลึก บำรุงให้หนังศีรษะชุ่มชื้น และเปลี่ยนผมแห้งเสียให้กลับมานุ่มสลวย แข็งแรง พร้อมเพิ่มวอลลุ่ม โดยไม่ทำให้ผมลีบแบน

เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์

สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาผมร่วงเยอะมาก สามารถแก้ไขปัญหาผมร่วงด้วยวิธีธรรมชาติได้จากการปรับเปลี่ยนอาหารเป็นสิ่งสำคัญในการบำรุงสุขภาพเส้นผมจากภายใน ซึ่งอาหารที่มีประโยชน์ต่อผมมีดังนี้2

  • อาหารโปรตีนสูง เช่น ปลาทะเล (โดยเฉพาะปลาที่มีโอเมกา 3 สูง) ไข่ และธัญพืชต่างๆ จะช่วยเสริมสร้างเส้นผมให้แข็งแรงขึ้น 
  • ไบโอติน ซิงค์ และซิลีเนียม ซึ่งพบได้ในอาหารจำพวกถั่ว เมล็ดพืชและไข่ ก็สามารถบำรุงเส้นผมได้เช่นกัน 
  • ผักใบเขียวอย่างผักเคล ผักโขมและผักคะน้า อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ 
  • ผลไม้ตระกูลเบอร์รีและส้ม ก็เป็นแหล่งของวิตามินซีและสารแอนติออกซิแดนต์ ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดียิ่งขึ้น

ไม่ควรมัดผมแน่นจนเกินไป

การมัดผมแน่นเกินไปมีส่วนทำให้เส้นผมอ่อนแอและขาดหลุดร่วงได้ง่ายขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาผมร่วง ควรหลีกเลี่ยงการมัดผมแน่น และเลือกมัดผมแบบหลวมๆ เพื่อให้เส้นผมได้เคลื่อนไหวอย่างอิสระ1 

ควบคุมความเครียด

ความเครียดเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผมร่วงเยอะมาก เพราะเมื่อเครียด ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล ทำให้เส้นผมอ่อนแอและหลุดร่วงง่ายขึ้น โดยเฉพาะในภาวะ Telogen Effluvium ซึ่งเป็นภาวะที่เส้นผมเข้าสู่ช่วงพักตัวเร็วกว่าปกติเนื่องจากความเครียด2 ดังนั้น จึงควรควบคุมความเครียดโดยการหากิจกรรมสันทนาการทำ หรือสิ่งบันเทิงที่ช่วยผ่อนคลายจิตใจ เช่น การดูหนัง ฟังเพลง เล่นกีฬา เป็นต้น

สรุป

ผมร่วงเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โดยปกติคนเราจะมีผมร่วงวันละ 50 - 100 เส้น จากจำนวนผมทั้งหมดประมาณ 100,000 เส้น แต่หากพบผมร่วงเยอะมากผิดปกติ เช่น บนหมอน หวี หรือหลังสระผม อาจมีสาเหตุจากหนังศีรษะไม่สมดุล พันธุกรรม โรค ฮอร์โมน ยา การขาดสารอาหาร หรือความเครียด

การรักษามีทั้งวิธีทางการแพทย์ เช่น การใช้ยา การปลูกผม การทำ PRP การฉีดสเต็มเซลล์ และการทำเลเซอร์ ส่วนการดูแลประจำวันก็สำคัญไม่แพ้กัน ทั้งการใช้ Hair Tonic บำรุงหนังศีรษะ การเป่าผมให้แห้งหลังสระ การใช้แชมพูสูตรปรับสมดุลหนังศีรษะ การกินอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงการมัดผมแน่น และจัดการความเครียด การแก้ปัญหาผมร่วงที่ได้ผลดีจึงควรทำอย่างเป็นระบบ ผสมผสานทั้งการรักษาและการดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ

References

  1. จิตรลดา มีพันแสน. ผมร่วงเยอะมากเกิดจากอะไร. samitivejhospitals.com. Published 16 September 2024. Retrieved 12 December 2024.
  2. Medparkhospital. ผมร่วง (Hair loss) สาเหตุ อาการ การรักษา การปลูกผมใหม่. medparkhospital.com. Retrieved 12 December 2024.