Key Takeaway
|
ผมเสียเกิดจากแสงแดด ความร้อน สารเคมี แก้ด้วยการสระผมด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ ใช้แชมพูอ่อนสูตรโยน เป่าผมให้แห้งก่อนนอน หวีผมอย่างถูกวิธี และลดการใช้ความร้อน
ผมเสียเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และมักเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การใช้ความร้อนจัดในการจัดแต่งทรงผมบ่อยเกินไป การสระผมด้วยน้ำร้อน การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง หรือแม้แต่การขาดสารอาหารบางชนิด1
หากพบอาการเหล่านี้ แสดงว่าผมของคุณขาดสมดุล และต้องการการบำรุงเป็นพิเศษเพื่อฟื้นฟูสภาพเส้นผมให้กลับมาสุขภาพดี
ผมของเราสามารถเสียหายได้จากหลายปัจจัยในชีวิตประจำวัน ทั้งจากสภาพแวดล้อม การใช้ความร้อนและสารเคมีในการจัดแต่งทรงผม รวมถึงพฤติกรรมการดูแลผมที่ไม่ถูกต้อง ล้วนเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เส้นผมอ่อนแอ แห้งเสีย และขาดความมีชีวิตชีวา
ความร้อนที่ใช้จัดแต่งทรงผมนั้น แม้จะช่วยให้เราได้ทรงผมที่สวยงาม แต่ก็ส่งผลเสียต่อเส้นผมในระยะยาวได้เช่นกัน ความร้อนสูงจะทำให้เกล็ดผมแห้งเสีย และทำลายโครงสร้างโปรตีนภายในเส้นผม2 ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมขาดความชุ่มชื้น แห้งกรอบ และเสียหายได้ง่ายขึ้น เครื่องมือทำผมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องหนีบผม เครื่องม้วนผม หรือแม้แต่ไดร์เป่าผม รวมถึงการดัดผม การยืดผม ก็ทำให้เส้นผมเสียจากความร้อนได้ทั้งสิ้น
หนังศีรษะที่มันเยิ้มนั้นเปรียบเสมือนผิวหน้าที่มันลื่น เพราะทั้งสองล้วนมีต้นเหตุมาจากการทำงานของต่อมไขมันที่ผลิตน้ำมันธรรมชาติ หรือที่เรียกว่า ‘ซีบัม’ ออกมามากเกินไป ซีบัมนี้มีหน้าที่หล่อลื่นและปกป้องทั้งผิวหนังและเส้นผมจากความแห้งกร้าน แต่หากมีมากเกินไปก็จะก่อให้เกิดปัญหาตามมา
การสระผมบ่อยเกินไปเพื่อขจัดความมันนั้นอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีเสมอไป เพราะจะทำให้หนังศีรษะสูญเสียซีบัมไป ซึ่งซีบัมนี้มีความสำคัญในการจับ ‘DHT’ ฮอร์โมนที่เป็นสาเหตุของผมร่วง การขาดซีบัมจึงอาจทำให้ผมแห้งเสียและร่วงง่ายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ทำสีผม เพราะการสระผมบ่อยและการใช้แชมพูที่มีสารเคมีรุนแรง เช่น ซัลเฟต จะทำให้สีผมจางเร็วและผมเสียจากความร้อนของไดร์เป่าผม3
ผู้ที่มีปัญหาผมช็อตจากสารเคมี การฟอกสีผมที่รุนแรง ควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมต่อไปนี้ เพราะอาจทำให้สภาพผมแย่ลงและส่งผลให้ผมช็อตมากยิ่งขึ้น4
วิธีแก้ผมเสียและบำรุงผมให้สวยสุขภาพดีในชีวิตประจำวัน กลับมามั่นใจได้ด้วยเคล็ดลับง่ายๆ ที่ทำได้ทุกวัน ดังนี้
การสระผมด้วยน้ำอุ่นอาจช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย แต่ความร้อนที่มากเกินไปกลับเป็นอันตรายต่อเส้นผม น้ำอุ่นจะชะล้างน้ำมันธรรมชาติที่ช่วยปกป้องเส้นผม ทำให้ผมแห้งเสียและขาดความชุ่มชื้น การเลือกใช้น้ำอุณหภูมิปกติในการสระผมจึงเป็นวิธีที่อ่อนโยนต่อเส้นผมมากที่สุด ช่วยรักษาความสมดุลของน้ำมันตามธรรมชาติและคงความแข็งแรงให้เส้นผม
นอกจากนี้ ควรเลี่ยงการสระผมทุกวัน เพราะการสระผมบ่อยเกินไป จะทำให้ซีบัมตามธรรมชาติหลุดออกไปหมด เส้นผมจึงขาดความชุ่มชื้น แห้งเสีย เปราะง่าย และแตกปลายง่ายขึ้น ดังนั้น ควรสระผมเพียงวันเว้นวัน หรือ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้หนังศีรษะผลิตซีบัมมาบำรุงผมได้อย่างพอเพียง5
แชมพูและครีมนวดสูตรเข้มข้นเพื่อบำรุงเส้นผมแห้งเสียโดยเฉพาะ ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะโดยไม่ดึงน้ำมันธรรมชาติออกไป ซึ่งน้ำมันเหล่านี้มีความสำคัญในการรักษาความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม และสามารถเข้าฟื้นบำรุงได้ลึกถึงแกนผม
ซึ่งแชมพูและครีมนวดที่จะฟื้นบำรุงเส้นผมที่แห้งเสียควรมี Phytojuve โปรตีนจากพืช ที่ช่วยฟื้นฟูเส้นผมเสียได้อย่างล้ำลึก ด้วยคุณสมบัติในการซ่อมแซมแกนกลางของเส้นผมที่เสียหาย ยึดเกาะและเคลือบบริเวณที่ถูกทำลาย และเสริมสร้างเส้นผมใหม่ให้แข็งแรงขึ้น ทำให้เส้นผมกลับมามีชีวิตชีวา อ่อนนุ่ม และเงางาม ดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ
ยิ่งไปกว่านั้น การมีส่วนผสมจากธรรมชาติอย่างทับทิมและอีฟนิ่ง พริมโรส จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ทำให้ผมนุ่มลื่น ไม่แห้งแตก และลดปัญหาผมขาดง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมแห้งเสียจากการทำสีผม ยืดผม หรือความร้อน
การหมักผมเป็นประจำเป็นเหมือนการให้ความชุ่มชื้นและอาหารแก่เส้นผมที่แห้งเสีย ซึ่งควรเลือกสูตรพิเศษที่มี Phytojuve เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างเส้นผมอย่างล้ำลึก ช่วยซ่อมแซมพันธะภายในเส้นผมที่เสียหาย พร้อมปกป้องจากความร้อนและความเสียหายจากการจัดแต่งทรง ทำให้เส้นผมแข็งแรงขึ้นถึง 3.4 เท่า ลดการแตกหัก ช่วยให้ผมนุ่มลื่น เงางาม และมีสุขภาพดี เปลี่ยนผมแห้งเสียให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
นอกจากวิตามินจะเป็นสิ่งจำเป็นต่อสุขภาพโดยรวมแล้ว ยังมีวิตามินบางชนิดที่ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพผมและเล็บ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี ไกลซีน ไบโอตินและธาตุเหล็ก ซึ่งล้วนมีส่วนช่วยให้ผมดูสุขภาพดีขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายคนหันมาสนใจการกินวิตามินก่อนคลอด หรืออาหารเสริมไบโอตินเพื่อบำรุงเส้นผม5 คลิกอ่านเพิ่มเติม
การใช้เครื่องมือจัดแต่งทรงผมที่ให้ความร้อนสูงเป็นประจำ ทำให้เส้นผมสูญเสียความชุ่มชื้นและเกิดความเสียหายสะสม ซึ่งการเว้นช่วงให้ผมได้พักจากความร้อนจะช่วยให้เส้นผมมีโอกาสฟื้นฟูตัวเอง และทำให้เส้นผมกลับมามีสุขภาพดี ชุ่มชื้น และแข็งแรงขึ้น
นอกจากนี้ การบำรุงเส้นผมควบคู่ไปด้วย เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงที่เหมาะสมและการหมักผมเป็นประจำ จะช่วยเร่งกระบวนการฟื้นฟูและทำให้ผมกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง6
การป้องกันผมเสียจากความร้อนและสารเคมีเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม สามารถทำได้ดังนี้
ผมเสียมักมีลักษณะแห้งกระด้าง ขาดความชุ่มชื้น ชี้ฟู แตกปลายและพันกันง่าย ส่งผลให้จัดแต่งทรงผมได้ยากและกระทบต่อความมั่นใจ สาเหตุหลักมาจากการใช้ความร้อนสูงในการจัดแต่งทรง การสระผมที่บ่อยเกินไป และสารเคมีจากผลิตภัณฑ์ดูแลผมต่างๆ เช่น ซัลเฟตในแชมพู ซิลิโคน และสารเคมีจากการย้อมผม
การฟื้นฟูผมเสียทำได้โดยปรับพฤติกรรมการสระผม ใช้น้ำอุณหภูมิปกติ ลดความถี่ในการสระผมเหลือ 2 - 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เลือกผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนทุกวัน และเสริมการดูแลจากภายในด้วยวิตามินและอาหารที่มีโปรตีนจากทะเล วิธีเหล่านี้จะช่วยให้เส้นผมกลับมาแข็งแรง มีสุขภาพดี และจัดทรงได้ง่ายขึ้น
References
Ashley Rubell. 7 Signs Your Hair Is Damaged, According to Experts. byrdie.com. Published 2 February 2024. Retrieved 12 December 2024.
Kathryn Watson. How to Treat Heat-Damaged Hair Without Cutting It. healthline.com. Published 23 September 2019. Retrieved 12 December 2024.
ภัทรศยา เชาว์รัศมีกุล, และภคพรวรรณ เจษฎาธรรมสถิต. ไขข้อสงสัย การสระผมบ่อยๆ จะยิ่งทำให้ผมมันเยิ้มจริงไหม แล้วสระกี่ครั้งต่อสัปดาห์จึงจะเหมาะสมที่สุด. thestandard.co. Published 12 March 2019. Retrieved 12 December 2024.
Mark C. Howell. 17 Dangerous Ingredients to Avoid in Hair Care Products. consumernotice.org. Retrieved 12 December 2024.
Kathryn Watson. Home Remedies for Dry Hair. healthline.com. Published 3 February 2023. Retrieved 12 December 2024.
VOGUE BEAUTY. 6 วิธีป้องกันผมเสียจากความร้อน ให้คุณสนุกกับการจัดแต่งทรงผมได้อย่างไร้กังวล. vogue.co.th. Published 25 April 2022. Retrieved 12 December 2024.